ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (27 มี.ค.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,760.08 จุด เพิ่มขึ้น 477.75 จุด หรือ +1.22%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,248.49 จุด เพิ่มขึ้น 44.91 จุด หรือ +0.86% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,399.52 จุด เพิ่มขึ้น 83.82 จุด หรือ +0.51% โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปี ที่ปรับตัวลงสู่ระดับ 4.19% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นดีดตัวขึ้นเป็นวงกว้าง
นักวิเคราะห์บริษัท UBS Wealth Management กล่าวว่า การคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปหรือซอฟต์แลนดิ้ง และความหวังที่ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาด
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 70.4% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมเดือนมิ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 59.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด โดยดัชนี PCE เป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกบอร์ดผู้ว่าการเฟดซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐนิวยอร์กในวันนี้
ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดฉากการซื้อขายเดือนมี.ค. และไตรมาส 1/2567 ในสัปดาห์นี้ โดยตลาดหุ้นจะทำการซื้อขายในวันนี้ (28 มี.ค.) เป็นวันสุดท้ายของเดือนนี้ ก่อนที่จะปิดทำการในวันศุกร์ (29 มี.ค.) เนื่องในวัน Good Friday
ข่าวเด่น