ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (1 เม.ย.67) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 18.70 ดอลลาร์ หรือ 0.84% ปิดที่ 2,257.10 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วน (PCE) สอดคล้องกับการคาดการณ์
โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (29 มี.ค.) ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนม.ค.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนม.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ด้าน นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้ออกมาขานรับดัชนี PCE ของสหรัฐ โดยกล่าวว่าเป็นข้อมูลที่สอดคล้องกับสิ่งที่เฟดต้องการจะเห็น
“เป็นเรื่องดีที่เห็นว่าข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับที่เราคาดการณ์ไว้ และแม้ว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวน้อยกว่าในปีที่แล้ว แต่เฟดก็จะไม่ดำเนินมาตรการที่รุนแรงเกินไป” นายพาวเวลกล่าว โดยการแสดงความเห็นของนายพาวเวลบ่งชี้ว่าเฟดยังคงมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และโกลด์แมน แซคส์ ต่างก็มีมุมมองบวกต่อแนวโน้มราคาทองคำ โดยเจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจจะพุ่งแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีนี้ และโกลด์แมน แซคส์คาดว่าราคาทองคำจะพุ่งแตะระดับ 2,300 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง
ข่าวเด่น