(222).jpg)
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (16 เม.ย.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,798.97 จุด เพิ่มขึ้น 63.86 จุด หรือ +0.17%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,051.41 จุด ลดลง 10.41 จุด หรือ -0.21% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,865.25 จุด ลดลง 19.77 จุด หรือ -0.12% หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้
โดย นายพาวเวลกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาที่กรุงวอชิงตันวานนี้ว่า เศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งจากดัชนีสำคัญหลายตัวที่เพิ่งออกมาล่าสุด ส่วนเงินเฟ้อชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มากพอที่จะมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ฉะนั้นเฟดจำเป็นต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้
หลังนายพาวเวลส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงต่อไป ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นทันที โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยเฟด พุ่งขึ้นเหนือระดับ 5% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.657% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. 2566
ด้านการรายงานผลประกอบการบริษัททะเบียนของสหรัฐ UnitedHealth บริษัทด้านสุขภาพรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 7.16 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 6.61 ดอลลาร์ ส่งผลให้หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ พุ่งขึ้น 5.2%
การพุ่งขึ้นของหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์เป็นปัจจัยหนุนดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงแรก ก่อนที่ดาวโจนส์จะลดช่วงบวกในเวลาต่อมา หลังจากนายพาวเวลส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาด
มอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยกำไรในไตรมาส 1/2567 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยได้แรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจวาณิชธนกิจ ส่งผลหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 2.5%
แบงก์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยกำไรลดลงไตรมาส 1/2567 หลังธนาคารเพิ่มเงินกันสำรองหนี้สูญ ส่งผลหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 3.5%
จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เปิดเผยรายได้ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 1/2567 อันเนื่องมาจากการชะลอตัวลงของยอดขายยา “Stelara” ซึ่งเป็นยารักษาโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) ส่งผลให้หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ร่วงลง 2.1%
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานเมื่อคืนนี้ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 14.7% สู่ระดับ 1.321 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.487 ล้านยูนิต และถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563
นักลงทุนจับตาสัปดาห์นี้จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆ ของสหรัฐ อาทิ รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค.จาก Conference Board
ข่าวเด่น