ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ ท่ามกลางตลาดต่างคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามอิสราเอลและอิหร่านที่เริ่มคลี่คลายลงและไม่ขยายไปในวงกว้าง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ได้แก่ Core Durable Goods Orders m/m ออกมาลดลงจากที่คาดการณ์ ขณะที่ Durable Goods Orders m/m ออกมาเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Advance GDP q/q ซึ่งคาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม ขณะที่ Unemployment Claims และ Advance GDP Price Index q/q คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ในส่วนของดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดตลาดที่ระดับ 105.69 จุด ขณะที่เช้านี้แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 105.78 จุด ด้านค่าเงินบาทเมื่อวานนี้แข็งค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 36.83 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ระดับ 37.17 บาทต่อดอลลาร์ เรียกได้ว่าค่าเงินบาทขึ้นมาทดสอบใกล้จุดสูงสุดเดิมของปีที่แล้วเมื่อประมาณช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ระดับ 37.20 บาทต่อดอลลาร์ ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 833.63 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐาน โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,320 เหรียญ และแนวต้าน 2,360 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,305 เหรียญ และแนวต้าน 2,345 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 40,300 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 41,000 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series J24 จะมีแนวรับที่ระดับ 40,750 บาท และแนวต้านที่ระดับ 41,200 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงทุนในกรอบ Sideways เน้นเทรดระยะสั้นตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น ลงซื้อขึ้นขาย ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับ และปิดทำกำไรตามแนวต้าน เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เทรดเก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ ระวังความผันผวนของราคา
ข่าวเด่น