(225)(25).jpg)
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (30 พ.ค.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,111.48 จุด ลดลง 330.06 จุด หรือ -0.86%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,235.48 จุด ลดลง 31.47 จุด หรือ -0.60% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,737.08 จุด ลดลง 183.50 จุด หรือ -1.08% หลังเซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 9.13 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.17 พันล้านดอลลาร์ และเซลส์ฟอร์ซยังคาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาส 2/2567 จะอยู่ในช่วง 9.20 – 9.25 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 9.37 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากลูกค้าลดการใช้จ่ายในผลิตภัณฑ์คลาวด์ของบริษัท ส่งผลให้ราคาหุ้นเซลส์ฟอร์ซ ร่วงลง 19.7% และฉุดหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายอื่นๆ ดิ่งลงด้วย โดยหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ร่วงลง 3.7% หุ้นไมโครซอฟท์ ดิ่งลง 3.4% หุ้นเมตาแพลตฟอร์มส์ ลดลง 1.5% หุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 2.1%
นอกจากนี้ นักลงทุนซึมซับข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 1/2567 รวมทั้งตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด โดยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำกว่า 4.6% และเครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 50.4% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 48.7% ในช่วงก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผย ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2567 โดยระบุว่า GDP ไตรมาส 1 ขยายตัว 1.3% ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งแรกที่ระดับ 1.6% โดยเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผย ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 219,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 218,000 ราย
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้กำหนดเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ข่าวเด่น