ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำโลกปรับตัวลดลง ค่อนข้างรุนแรงในช่วงวันศุกร์ โดยภาพรวมราคาทองคำร่วงลงประมาณ 80 เหรียญ โดยในช่วงเช้าของวันศุกร์ ราคาปรับขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 2,370 เหรียญ ก่อนที่ราคาจะปรับตัวลดลงในช่วงบ่าย โดยมีข่าวลือว่าธนาคารกลางจีนหยุดซื้อทองคำในเดือน พ.ค. ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงมา และในช่วงหัวค่ำได้มีการประกาศตัวเลข Non-Farm Employment Change ซึ่งออกมาดีกว่าที่คาดค่อนข้างมากแม้ตัวเลข Unemployment Rate จะออกมาสูงขึ้นก็ตาม ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น และราคาทองคำถูกกดดันเทขายต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 อีกครั้งจากช่วงบ่าย ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 2,286 เหรียญ ภาพรวมยังคงมองว่าราคาทองคำ ปรับลดลงทั้งข่าวประเด็นทางฝั่งของจีน และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมากดดันตลาด
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในทางเทคนิคราคาทองคำ ได้ลงมาทดสอบแนวระยะกลางที่บริเวณ 2,280 เหรียญ ที่เป็นจุดต่ำสุดเดิมในรอบกว่า 1 เดือน ภาพรวมตลาดในช่วง 2 วันนี้หากราคาทองคำ ไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 2,300 เหรียญได้ ระยะสั้นนั้นราคามีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงต่อ โดยวันนี้มีกรอบแนวรับที่บริเวณ 2,280 เหรียญ และแนวต้านที่บริเวณ 2,325 เหรียญ ให้ระมัดระวังความผันผวนในระยะสั้น จึงควรลดการใช้ leverage และบริหาความเสี่ยงให้ดี
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,290 เหรียญ และแนวต้าน 2,335 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,295 เหรียญ และแนวต้าน 2,340 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 39,800 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 40,200 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series M24 จะมีแนวรับที่ระดับ 40,150 บาท และแนวต้านที่ระดับ 40,550 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เน้นเทรดระยะสั้น เก็งกำไรในกรอบแคบลงซื้อขึ้นขาย รอดูความชัดเจนของทิศทาง ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น