ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (11 มิ.ย.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,747.42 จุด ลดลง 120.62 จุด หรือ -0.31%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,375.32 จุด เพิ่มขึ้น 14.53 จุด หรือ +0.27% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,343.55 จุด เพิ่มขึ้น 151.02 จุด หรือ +0.88% โดยดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นแอปเปิ้ลที่ทะยานขึ้น 7.3% ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังบริษัทประกาศแผนการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ารวมในผลิตภัณฑ์ของบริษัท เช่น iPhone, iPad และ Mac
โดยในการประชุม Worldwide Developers Conference หรือ WWDC เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 มิ.ย.) แอปเปิ้ลได้เปิดตัวการใช้เทคโนโลยี Apple Intelligence ในแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง Siri พร้อมกับติดตั้ง ChatGPT ซึ่งเป็นแชตบอตของ OpenAI เข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของแอปเปิ้ลด้วย
นักวิเคราะห์เชื่อว่า การเปิดตัว Apple Intelligence จะทำให้ลูกค้าของแอปเปิ้ลต้องอัปเกรดเครื่องใหม่ เนื่องจากขณะนี้มีเพียง iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max เท่านั้นที่รองรับระบบดังกล่าว
ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีใน S&P500 พุ่งขึ้น 1.7% และปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) พุ่งขึ้น 1.35% หลังจากบริษัทประกาศแผนซื้อหุ้นคืนมูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ GM ยังได้ปรับลดคาดการณ์การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รายปี
ด้านคณะกรรมการเฟดเปิดการประชุมนโยบายการเงินแล้วเมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) และจะแถลงมติการประชุมในวันนี้ (12 มิ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ เฟดจะเปิดเผยรายงานคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจ รวมทั้งการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด โดยนักลงทุนจับตารายงานเหล่านี้อย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
มาร์โค โคลาโนวิค หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านหลักทรัพย์ของธนาคารเจพีมอร์แกนแสดงความเห็นว่า โอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีน้อยลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ค.ที่แข็งแกร่งเกินคาด และคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในปีนี้ คือในการประชุมเดือนพ.ย.
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันนี้ แต่นักลงทุนคาดว่าเฟดจะเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ออกไปเป็นเดือนพ.ย. จากเดิมที่คาดว่าจะเป็นเดือนก.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานจะเพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนเม.ย. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.6% ในเดือนเม.ย.
ข่าวเด่น