ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (18 มิ.ย.67) เวลา 9.59 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,300.21 จุด บวก 3.62 จุด มูลค่าการซื้อขาย 819.16 ล้านบาท
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมิน SET วันนี้ เผชิญปัจจัยกดดันด้านการเมือง และวันนี้มีประเด็นสำคัญทางการเมืองที่ต้องติดตาม รวมถึงทิศทาง fund flow ยังไหลออก ทำให้การฟื้นตัวยังจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1305 และ 1310 จุด ตามลำดับ ด้านสัญญาณเทคนิคยังอ่อนแรง ทำให้มีแนวโน้มปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1290 และ 1280 จุด ตามลำดับ
ช่วงสั้นมอง SET ยังผันผวนและเปราะบาง จากความกังวลความเสี่ยงเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ โดยในวันที่ 18 มิ.ย. นี้จะมีการพิจารณา 4 คดีทางการเมืองสำคัญ ได้แก่ คดียุบพรรคก้าวไกล, คดีถอดถอนนายกฯ เศรษฐา, คดีอดีตนายกฯ ทักษิณ และคดี สว. จึงทำให้ SET ยังมีแนวโน้ม Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค ท่ามกลางตัวเลขยอดการผลิตรถยนต์และการส่งออกของไทยที่คาดจะยังอ่อนแอ ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนและสหรัฐคาดจะมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่วน BoE คาดจะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.25% แต่จะส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินใน 3Q67 ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
กลยุทธการลงทุน
ตลาดหุ้นไทย ยังผันผวนและเปราะบาง จากกังวลความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศ ทำให้ SET ยังมีโอกาส Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้
1) หุ้น Global Play ที่คาดผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องและได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่จะขึ้นกับการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ไม่แน่นอน เลือก KCE SCGP PTTGC
2) หุ้นที่คาด 2Q67 กำไรจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง นอกจากนี้ยังเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวชนะตลาดได้ YTD เลือก ICT (ADVANC) TOURISM (MINT) และ FOOD (TU BTG OSP)
3) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากการเข้าสู่บรรยากาศแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2024) ในช่วงวันที่ 14 มิ.ย.-14 ก.ค. 67 เลือก ADVANC TRUE CPALL MINT TU
4) สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Bent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP
หุ้น TOP PICKS วันนี้
- KCE มองเป็นหุ้น Global Play ที่ผลประกอบการฟื้นตัวตาม ศก. โลก คาดปี 2567 กำไรปกติพลิกโต 44.7%YoY โดย 2Q67 คาดกำไรโต YoY และ QoQ จากคำสั่งซื้อค้างส่งที่แข็งแกร่งของ special grade PCB (HDI) ที่มีมาร์จิ้นสูง ส่วน 2H67 มองเข้าสู่ High Season และมาร์จิ้นดีขึ้นจากมาตรการลดต้นทุน
- MINT เป็น 1 ในหุ้นเด่นกลุ่มท่องเที่ยว คาดผลการดำเนินงาน 2Q67 เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากการเข้าสู่ High Season ของยุโรป อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง โดยซื้อขายที่ PER 67F ระดับ 23 เท่า ใกล้เคียง -1SD ของ PER เฉลี่ยในอดีต และยังไม่สะท้อนกำไรปกติปี 2567 ที่คาดเติบโต 12%YoY สู่ระดับ 8 พันลบ.
ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม
- นีล แคชแครี ปธ. Fed สาขามินนีแอโพลิส และแพทริก ฮาร์เกอร์ ปธ. Fed สาขาฟิลาเดลเฟีย ต่างส่งสัญญาณว่า Fed จะลด ดบ. 1 ครั้งในปีนี้
- ปธ. ECB ระบุกำลังจับตาพัฒนาการในตลาดการเงิน หลังตลาดหุ้นฝรั่งเศสทรุดตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับชัยชนะในการเลือกตั้งของพรรคขวาจัด
- ทางการจีนเริ่มสอบสวนการทุ่มตลาดสำหรับเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์พลอยได้จากหมูที่นำเข้าจาก EU เป็นการตอบโต้ที่ EU ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน
- นายกฯ สั่งการพาณิชย์ทบทวนรายการสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตได้ โดยเฉพาะสินค้านำเข้า เช่น สมาร์ทโฟน และเครื่องใช้ไฟฟ้านำเข้า และนำข้อสรุปมาเสนออีกครั้งในสัปดาห์หน้า
- รมช.คลัง ระบุตลาดหุ้นผันผวนระยะสั้น ปัจจัยหลักมาจากสถานการณ์การเมืองซึ่งกระทบความเชื่อมั่น ขณะที่ ก. คลังได้เตรียมมาตรการที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดหุ้นไทย ซึ่งคาดจะมีข้อสรุปในเร็วๆนี้ ทั้งเรื่องจัดตั้งกองทุน LTF และกองทุน ThaiESG
- ตลท. ออกมาตรการเพิ่ม Uptick Rule รายหลักทรัพย์ที่จะมาใช้แทน Zero-plus Tick โดยจะเริ่มใช้วันที่ 1 ก.ค. 67 ตามแผนงานระบุไว้ช่วงปลาย 2Q67 ซึ่งทาง ตลท. จะแถลงทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวก่อนใช้จริงในวันนี้
- บ่ายวันนี้ ตลท. เตรียมแถลงความคืบหน้าของการดำเนินการมาตรการยกระดับความเชื่อมั่น หลัง Program Trading ขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง 16 วันทำการ มูลค่าเกือบ 3 หมื่นลบ. และทำ Short selling รวมเกือบ 1 แสนลบ. หลังจากที่มาตรการใหม่ยังไม่เริ่มใช้
ข่าวเด่น