ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 มิ.ย.67) บวก 4.60 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,302.01 จุด


 

ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (19 มิ.ย.67) เวลา 9.59 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,302.01 จุด บวก 4.60 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,374 ล้านบาท

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมิน SET วันนี้ ประเด็นด้านการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน ทำให้ยังเป็นปัจจัยกดดันดัชนี และทิศทาง fund flow ที่ไหลออก ทำให้การฟื้นตัวยังจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1310 และ 1320 จุด ตามลำดับ ด้านกรอบล่างอยู่ที่ 1290 จุด ใช้เป็นจุดติดตาม หากต่ำกว่าเป็นสัญญาณลบต่อ และมีแนวรับถัดไปที่ 1280 จุด

ช่วงสั้นมอง SET ยังผันผวนและเปราะบาง จากกังวลความเสี่ยงการเมืองในประเทศยืดเยื้อ โดยเมื่อ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ตัดสินคดีคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีและคดียุบพรรคก้าวไกล โดยนัดพิจารณาต่อในเดือน ก.ค. จึงทำให้คาด SET จะยังมีแนวโน้ม Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค ท่ามกลางตัวเลขยอดการผลิตรถยนต์และการส่งออกของไทยที่คาดจะยังอ่อนแอ ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนและสหรัฐคาดจะมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่วน BoE คาดจะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.25% แต่จะส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินใน 3Q67 ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”  

กลยุทธการลงทุน

ตลาดหุ้นไทย ยังผันผวนและเปราะบาง จากกังวลความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศ ทำให้ SET ยังมีโอกาส Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้ 

1.หุ้น Global Play ที่คาดผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องและได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่จะขึ้นกับการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ไม่แน่นอน เลือก KCE SCGP PTTGC

2.หุ้นที่คาด 2Q67 กำไรจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง นอกจากนี้ยังเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวชนะตลาดได้ YTD เลือก ICT (ADVANC) TOURISM (MINT)  และ FOOD (TU BTG OSP) 

3.หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากการเข้าสู่บรรยากาศแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2024) ในช่วงวันที่ 14 มิ.ย.-14 ก.ค. 67 เลือก ADVANC TRUE CPALL MINT TU 

4.สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Bent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

หุ้น TOP PICKS วันนี้ 

- TOP ระยะสั้นคาดได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันปรับขึ้น ขณะที่ค่าการกลั่นมองอยู่ที่จุดต่ำสุดแล้วและกำลังรอฟื้นตัว จากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินและน้ำมันเครื่องบินตามฤดูกาล อีกทั้งผลการดําเนินงานธุรกิจอะโรเมติกส์คาดจะปรับตัวดีขึ้น จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง หนุนจากอุปทานที่ตึงตัวในเอเชีย

- MTC มองได้อานิสงส์จากภาวะดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มจะปรับตัวลงซึ่งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลงได้ ทั้งนี้ปี 2567 คาดกำไรจะฟื้นตัวกลับมาเติบโตได้ดีที่ 22%YoY (หลังจากลดลง 4%YoY ในปี 2566) ซึ่งเป็นผลมาจากสินเชื่อที่เติบโต 19%, credit cost ที่ลดลง และ opex ที่เติบโตชะลอตัวลงจากขยายสาขาช้าลง

ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม

- สหรัฐรายงานตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม พ.ค. เพิ่มขึ้น0.9%MoM และ 0.4%YoY ขณะที่ยอดค้าปลีก พ.ค. เพิ่มขึ้น 0.1%MoM และ 2.3%YoY ต่ำกว่าตลาดคาด

- BOJ ระบุอาจมีการปรับขึ้น ดบ. ในเดือน ก.ค. ขึ้นอยู่กับข้อมูล ศก. ณ ขณะนั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะผลักดันให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับใกล้ 0% ในปัจจุบัน

- ยูเครนส่งโดรนโจมตีคลังน้ำมันของรัสเซียที่ท่าเรือ Azov ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้เป็นวงกว้างที่คลังน้ำมัน ขณะที่ รมว. ตปท. ของอิสราเอลเตือนว่าอิสราเอลจะตัดสินใจเปิดฉากทำสงครามกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนอย่างเต็มรูปแบบในไม่ช้านี้

- ก. ท่องเที่ยวฯ ระบุ 1 ม.ค.-16 มิ.ย. 67 นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทย 16.2 ล้านคน สร้างรายได้ 7.66 แสนลบ. นทท. ต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย อินเดีย รัสเซีย และเกาหลีใต้

- ผู้ว่า ธปท. แสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของรัฐบาลที่จะทบทวนกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยระบุถึงความเสี่ยงว่าอาจทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาขยายตัวอย่างรวดเร็ว นำไปสู่ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น
 
- ก. คลังระบุรัฐบาลพิจารณามาตรการกระตุ้นตลาดทุน ทั้งมาตรการ LTF ที่จะปรับปรุงเงื่อนไขใหม่หรือปรับ Thai ESG ให้ดึงดูด นลท. ได้มากขึ้น

- ตลท. ระบุ 1 ก.ค. 67 ใช้มาตรการ Uptick โดยให้ขายชอร์ตทุกหลักทรัพย์ได้ที่ราคาสูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย จากปัจจุบันให้ขายชอร์ตได้ที่ราคาเท่ากับหรือสูงกว่า (Zero-plus Tick) แต่เลื่อนใช้ Circuit Breaker รายหุ้นไป 3Q67 และเพิ่ม Auto Halt รายหุ้นไป 1Q68

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 มิ.ย. 2567 เวลา : 10:43:35

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:06 pm