ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบ Sideways หลังตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ Core Retail Sales m/m และ Retail Sales m/m ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายต่างกล่าวสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ สอดคล้องกับรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 1 ครั้งในปี 2567 จากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมเดือนมี.ค. ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 105.30 จุด และเคลื่อนตัวระหว่าง 105.13-105.56 จุด ก่อนจะปิดที่ระดับ 105.25 จุด ขณะที่ค่าเงินบาทเมื่อวานนี้เปิดตลาดที่ระดับ 36.83 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้แข็งค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 36.69 บาทต่อดอลลาร์ ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 825.31 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ Sideways และเคลื่อนตัวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลางที่ระดับ 2,335 เหรียญ โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,300 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,335 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,305 เหรียญ และแนวต้าน 2,340 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,315 เหรียญ และแนวต้าน 2,350 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 40,100 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 40,700 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series M24 จะมีแนวรับที่ระดับ 40,450 บาท และแนวต้านที่ระดับ 40,800 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเน้นเทรดระยะสั้น เก็งกำไรในกรอบลงซื้อขึ้นขาย รอดูความชัดเจนของทิศทาง ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น