ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (20 มิ.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 36.69 บาทต่อดอลลาร์


 

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (20 มิ.ย.67) ที่ระดับ  36.69 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.67 บาทต่อดอลลาร์ 

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways (แกว่งตัวในช่วง 36.65-36.69 บาทต่อดอลลาร์) หลังตลาดการเงินฝั่งสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันหยุด Juneteenth ทำให้สินทรัพย์ส่วนใหญ่ในตลาดก็เคลื่อนไหวในกรอบ sideways นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติมในช่วงปลายสัปดาห์ ทั้ง ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและภาคการบริการ (Manufacturing & Services PMIs) ของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ทั้งนี้ เรายังคงเห็นแรงซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงเงินบาททยอยแข็งค่าเข้าใกล้โซน 36.60 บาทต่อดอลลาร์ ตามโฟลว์ธุรกรรมที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งทองคำและน้ำมัน รวมถึงแรงซื้อเงินดอลลาร์จากฝั่งผู้นำเข้าบางส่วน ทำให้โซนดังกล่าวอาจยังคงเป็นแนวรับของเงินบาทในช่วงนี้ได้ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันหยุด Juneteenth ทว่า หากประเมินจากสัญญาฟิวเจอร์สตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจสะท้อนว่า บรรดาผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจยังไม่รีบเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มเติม จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ โดยเฉพาะข้อมูลที่จะทำให้ผู้เล่นในตลาดมั่นใจมากขึ้นว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ (ปัจจุบัน ตลาดให้โอกาสราว 86%)

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 พลิกกลับมาย่อตัวลง -0.17% ตามแรงขายทำกำไรบรรดาหุ้นธีม AI/Semiconductor อย่าง ASML -1.8% นอกจากนี้ ความกังวลสถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศสก็ยังคงเป็นปัจจัยกดดันบรรยากาศในตลาดหุ้นยุโรปอยู่ สะท้อนจากแรงขายหุ้นฝรั่งเศสที่ทำให้ ดัชนี CAC40 ของฝรั่งเศส ปรับตัวลงราว -0.77%

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวในกรอบ sideways หลังผู้เล่นในตลาดต่างก็รอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ยังพอได้แรงหนุนอยู่บ้าง ตามการทยอยอ่อนค่าลงของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ที่ล่าสุดกลับมาแกว่งตัวเหนือระดับ 158 เยนต่อดอลลาร์ อีกครั้ง ส่วนความกังวลสถานการณ์การเมืองฝรั่งเศสก็เป็นปัจจัยที่กดดันตลาดทุนยุโรปและค่าเงินยูโร (EUR) ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวแถวระดับ 105.2 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 105.1-105.3 จุด) 
 
สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น ผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ซึ่งเราคาดว่า BOE จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.25% และเราประเมินว่า BOE อาจยังไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนนักว่าจะพร้อมทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในการประชุมเดือนสิงหาคม เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ล่าสุด แม้จะชะลอลงตามคาด แต่ก็อยู่ในระดับสูงถึง 3.5% นอกจากนี้ เศรษฐกิจอังกฤษและอัตราเงินเฟ้ออาจได้แรงหนุนเพิ่มเติมในระยะสั้นจากผลกระทบของการจัดงานคอนเสิร์ต Eras Tour ของ Taylor Swift ทำให้เรามองว่า BOE อาจเริ่มทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในการประชุมเดือนกันยายน หากอัตราเงินเฟ้อสามารถชะลอลงได้ต่อเนื่อง หลังผ่านช่วงรับรู้ปัจจัย Swiftflation หรือ Swiftonomics ไปแล้ว

ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ที่มีแนวโน้มสะท้อนภาพตลาดแรงงานที่ชะลอลงต่อเนื่องได้ พร้อมกันนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดในระยะถัดไป   

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทอาจยังคงแกว่งตัว sideways ในกรอบแถวระดับ 36.60-36.80 บาทต่อดอลลาร์ ไปก่อน เพราะถึงแม้ปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าอย่าง ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองไทยจะคลี่คลายลงบ้างในระยะสั้น ทว่า เงินบาทก็ยังขาดปัจจัยหนุนฝั่งแข็งค่าที่ชัดเจน และยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากความผันผวนของฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติในตลาดทุนไทย นอกจากนี้ ควรจับตาทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะ ราคาทองคำ เพราะหากราคาทองคำยังสามารถทรงตัวที่ระดับปัจจุบัน หรือ ปรับตัวขึ้นต่อได้บ้าง ก็อาจช่วยลดทอนแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาท แต่หากราคาทองคำปรับตัวลดลง ก็สามารถกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าได้ ตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำของผู้เล่นในตลาด ซึ่งในช่วงนี้ เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอจังหวะ “Buy on Dip” ทองคำอยู่ เพื่อรอลุ้นการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ หากบรรดาธนาคารกลางหลักทยอยลดดอกเบี้ยลง และธนาคารกลางบางส่วนก็อาจยังคงเข้าซื้อทองคำเป็นส่วนหนึ่งของเงินทุนสำรอง

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุม BOE เพราะหาก BOE “เซอร์ไพรส์” ตลาด ด้วยการลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หรือ ส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้น ว่าจะทยอยลดดอกเบี้ยลงในการประชุมครั้งหน้า ก็อาจกดดันให้เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ผันผวนอ่อนค่าลงและช่วยหนุนให้ เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้นได้ 

เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนไปตาม การเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท อย่าง มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.60-36.80 บาท/ดอลลาร์

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 มิ.ย. 2567 เวลา : 10:27:06

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:43 am