ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (25 มิ.ย.67) ดัชนีอยู่ที่ 1,320.12 จุด บวก 3.39 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,175.13 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ประเมิน SET วันนี้ ได้ sentiment บวก จากการปรับเกณฑ์ให้จูงใจผลประโยชน์ทางภาษีมากขึ้น สำหรับกองทุน ThaiESG สร้างสัญญาณรีบาวนด์ทางเทคนิคได้ต่อ โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1,320 -1,325 จุด
อย่างไรก็ตาม โดยรวมยังไม่มีสัญญาณกลับตัว ทำให้กรอบบนยังจำกัด ด้านแนวรับอยู่ที่ 1,310 และ 1,300 จุด หากต่ำกว่า กลับมาเป็นลบ
ช่วงสั้นมอง SET ยังอยู่ในภาวะผันผวนและเปราะบางเช่นเดิม เนื่องจากปัจจัยการเมืองในประเทศยังยืดเยื้อทำให้ SET ยังมีโอกาส Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค อย่างไรก็ดีมีความคาดหวังว่าปัจจัยเชิงเศรษฐกิจ เช่น ดัชนีอุตสาหกรรมและรายงานประชุม กนง. อาจจะส่งสัญญาณการฟื้นตัวของภาคการผลิตได้
นอกจากนั้นยังมีปัจจัยบวกจากการประกาศนโยบายสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุน ทั้งการปรับเพิ่มวงเงินกองทุน T-ESG และมาตรการ Uptick ที่จะเริ่มใช้วันที่ 1 ก.ค. ส่วนปัจจัยต่างประเทศในสัปดาห์นี้คาดยังไร้ปัจจัยใหม่ โดยเน้นติดตามดัชนี PCE พ.ค. ของสหรัฐคาดทรงตัว MoM และปรับขึ้น 2.6%YoY (ชะลอตัว จาก 2.7% YOY ในเดือน เม.ย. ซึ่งไม่น่ากดดันตลาดมากนัก ดังนั้นกลยุทธ์ ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
กลยุทธ์การลงทุน
มองตลาดหุ้นไทยยังผันผวนและเปราะบาง จากกังวลความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศส่วนปัจจัยต่างประเทศในสัปดาห์นี้คาดยังไร้ปัจจัยใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้
1) หุ้น Global Play ที่คาดผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องและได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่จะขึ้นกับการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ไม่แน่นอน เลือก KCE SCGP TU MINT
2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์ Cover Short หลังตลท. เริ่มใช้มาตรการ Uptick ตั้งแต่ 1 ก.ค. 67 เลือก HANA TOP BEM KCE MINT OSP BBL SCGP AOT
3) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากการเข้าสู่บรรยากาศแข่งขันฟุตบอลชิงแชมปีแห่งชาติยุโรป (ยูโร 2024) ในช่วงวันที่ 14 มิ.ย.-14 ก.ค. 67 เลือก ADVANC TRUE CPALL MINT TU
4) สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Bent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP
หุ้นแนะนำ
MINT 1 ในหุ้นเด่นกลุ่มท่องเที่ยว คาดผลการดำเนินงาน 2Q67 โตทั้ง YoY และ Q0Q จากการเข้าสู่ High Season ของยุโรป อีกทั้งคาดจะได้ประโยชน์จากการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 ที่เยอรมนี (14 มิ.ย.-14 ก.ค.) Valuation ยังไม่แพง ซื้อขายบน PER 67F ที่ 23 เท่า ใกล้เคียง-1SD ของ PER เฉลี่ยในอดีต และยังไม่สะท้อนกำไรปกติปี 2567 คาดเติบโต 12%YoY สู่ 8 พันล้านบาท
BCP มองได้ประโยชน์จากราคาก๊าซในยุโรปที่ฟื้นตัว ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นใน มิ.ย. คาดช่วยหนุนผลประกอบการจากขาดทุนสต๊อกลดลง ค่าการกลั่นฟื้นตัวนำโดยดีเซล และมีโอกาสดีขึ้นอีก จากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินและน้ำมันเครื่องบินตามฤดูกาล Valuation ไม่แพง PER 67F ที่ 4 เท่า คาด Div. Yield 6%
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามวันนี้
1.แคนาดาอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถ EV จากจีน รวมถึงเพิ่มข้อกำหนดในการลงทุนในประเทศแคนาดา หลังเชื่อว่อุตสาหกรรมรถยนต์ของแคนาดา มีการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากจีน
2.กระทรวงการคลัง ปรับเงื่อนไขให้สิทธิประโยชน์ภาษีกองทุน T-ESG ลดหย่อนภาษีได้ 3 แสนบาท ลดเวลาถือครองเหลือ 5 ปี เตรียมเสนอเข้า ครม. ใน 2 สัปดาห์ คาดมีเม็ดเงินใหม่ 3 หมื่นล้านบาท ต่อปี นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ร่วมกับ ก.ล.ต.-ตลท. จัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ใหม่ 5 แสนล้านบาท ระดมทุนขายหน่วย ลงทุนให้ ปชช. 1.5 แสนล้านบาท
3.พาณิชย์ ระบุช่วง 5M67 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในไทย 317 ราย เพิ่มขึ้น 16% จาก 273 ราย มีมูลค่าการลงทุน 7.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จาก 2.63 หมื่นล้านบาท ขณะที่มีการจ้างงานคนไทยลดลง 1,787 ราย หรือลดลง 60%
4.กบน. เพิ่มเงินชดเชยราคาดีเซลขึ้นอีกครั้งเป็น 2.02 บาทต่อลิตร จากเดิม 1.60 บาทต่อลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ไม่สามารถปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลได้ เนื่องจากเต็มเพดานที่ ครม. กำหนดให้ไม่เกิน 33 บาท ต่อลิตร ซึ่งปัจจุบันราคาอยู่ที่ 32.94 บาท ต่อลิตรส่งผลให้กองทุนน้ำมันต้องประสบปัญหาเงินไหลออก วันละ 19.81 ล้านบาท หรือ 594 ล้านบาท ต่อเดือน สถานะกองทุนน้ำมัน ล่าสุด ณ วันที่ 23 มิ.ย. ติดลบ 1.1 แสนล้านบาท
5.BOI-ทีมไทยแลนด์ จัดสัมมนาใหญ่เชิญชวน 400 นักลงทุนญี่ปุ่น ย้ายฐานผลิตเข้าไทยลดความเสี่ยงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ด้านรัฐบาลเร่งจัดทำ FTA 20 ฉบับ และหาพลังงานสะอาด เตรียมบุคลากรรองรับ
ข่าวเด่น