ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นในคืนวันศุกร์ ก่อนจะปรับตัวร่วงลงมา หลังการเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ท่ามกลางแรงเทขายอย่างต่อเนื่องจากกองทุนทองคำ SPDR ซึ่งเมื่อวานนี้ขายออกไปอีก 2.88 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 829.05 ตัน อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังคงสามารถกลับมารีบาวด์ได้ที่ระดับ 2,335 เหรียญ ท่ามกลางประเด็นข่าวเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคาทองคำและดัชนีดอลลาร์ โดยเมื่อวานนี้ดัชนีดอลลาร์เปิดที่ระดับ 105.83 จุด และขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 105.90 จุด ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 105.48 จุด ขณะที่เช้านี้อ่อนค่าลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 105.41 จุด ขณะที่ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่แถวบริเวณ 36.60 บาทต่อดอลลาร์ หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 36.80 บาทต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ CB Consumer Confidence และ Richmond Manufacturing Index คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม ซึ่งยังคงต้องติดตามผลกระทบจากภาวะภูมิรัฐศาสตร์อย่างใกล้ชิด
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways ระหว่าง 2,310-2,335 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,315 เหรียญ และแนวต้าน 2,340 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,325 เหรียญ และแนวต้าน 2,350 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 40,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 40,600 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series M24 จะมีแนวรับที่ระดับ 40,450 บาท และแนวต้านที่ระดับ 40,800 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเน้นเทรดระยะสั้น เก็งกำไรในกรอบลงซื้อขึ้นขาย รอดูความชัดเจนของทิศทาง ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น