ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงมาทดสอบจุดต่ำสุดเดิมแถวบริเวณ 2,320 เหรียญ โดยภาพรวมราคาทองคำยังคงถูกกดดันจากการที่ยังไม่มีประเด็นข่าวใหม่ๆเข้ามากระตุ้นให้เกิดแรงซื้อกลับขึ้นไป ท่ามกลางนักวิเคราะห์หลายฝ่ายต่างคาดการณ์ว่าเฟดน่าจะปรับลดดอกเบี้ย จากภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ชะลอตัวลง โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ได้แก่ Richmond Manufacturing Index ออกมาลดลงจากที่คาดการณ์ ขณะที่ CB Consumer Confidence ออกมาเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ระดับ 105.51 จุด ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 105.62 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 105.65 จุด สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ New Home Sales คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 829.05 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบลักษณะ Sideways ระหว่าง 2,320-2,365 เหรียญ โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับระยะสั้นที่ระดับ 2,310 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,350 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,310 เหรียญ และแนวต้าน 2,350 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,320 เหรียญ และแนวต้าน 2,360 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 40,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 40,600 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series M24 จะมีแนวรับที่ระดับ 40,350 บาท และแนวต้านที่ระดับ 40,700 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเน้นเทรดระยะสั้น เก็งกำไรในกรอบลงซื้อขึ้นขาย รอดูความชัดเจนของทิศทาง ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น