ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (1 ก.ค.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,169.52 จุด เพิ่มขึ้น 50.66 จุด หรือ +0.13%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,475.09 จุด เพิ่มขึ้น 14.61 จุด หรือ +0.27% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,879.30 จุด เพิ่มขึ้น 146.70 จุด หรือ +0.83% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีทุนจดทะเบียนสูง พุ่งขึ้น 1.30% โดยหุ้นแอปเปิ้ล พุ่งขึ้น 2.9% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 2% และหุ้นอะเมซอน พุ่งขึ้น 2.2% ขณะ ที่หุ้นเทสลา ทะยานขึ้น 6.1% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลการส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 2/2567
นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์เมื่อคืนนี้ เป็นปัจจัยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคาร (S&P 500 Banks Index) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน โดยหุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 1.6% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากธนาคารประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผลเป็น 1.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากเดิม 1.15 ดอลลาร์ต่อหุ้น นอกจากนี้ บอร์ดบริหารของเจพีมอร์แกนยังได้อนุมัติการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผย การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างลดลง 0.1% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. และเมื่อเทียบเป็นรายปี การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างพุ่งขึ้น 6.4% ในเดือนพ.ค.
ข้อมูลจาก LSEG FedWatch บ่งชี้ว่า นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยการปรับลดครั้งแรกจะเกิดขึ้นในเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐในวันที่ 9 ก.ค. และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 10 ก.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้าเดือนพ.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.
ข่าวเด่น