ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (2 ก.ค.67) เวลา 10.00 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,296.39 จุด ลบ 2.96 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,615.52 ล้านบาท
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมิน SET วันนี้ คาดแกว่งในกรอบ โดยตลาดที่ขาดปัจจัยหนุน ทำให้กรอบบนยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1305 และ 1310 จุด ขณะที่มาตรการ uptick คาดช่วยลดความผันผวนของตลาด โดยมีแนวรับ 1290 จุด เป็นจุดรองรับ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยการเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอน ทำให้มีความเสี่ยงด้าน downside ได้ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1280 จุด
ช่วงสั้นมอง SET ยังเปราะบางและแกว่งตัวในกรอบแคบ ระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศซึ่งในวันที่ 3 ก.ค. ศาล รธน. จะมีการนัดพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล และวันที่ 10 ก.ค. ศาล รธน. จะมีการนัดพิจารณาคดียื่นวินิจฉัยคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ มิ.ย. จีน อียูและสหรัฐฯ ซึ่งคาดจะออกมาทรงตัวถึงขยายตัวเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
กลยุทธการลงทุน
มองตลาดหุ้นไทยยังเปราะบางและแกว่งตัวในกรอบแคบ ระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศและปัจจัยหนุนใหม่ๆ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้
1.หุ้นที่คาดจะได้อานิสงส์ Cover Short หลัง ตลท. เริ่มใช้มาตรการ Uptick ตั้งแต่ 1 ก.ค. 67 และเป็นหุ้นพื้นฐานดีมี ESG Rating ระดับ A-AAA เลือก HANA TOP BEM MINT OSP BBL SCGP AOT
2.หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากแผนปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ใหม่ โดยขยายวงเงินเป็น 3 แสนบาทและลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี เลือก ADVANC CPALL BDMS BBL BEM
3.หุ้น Global Play ที่คาดผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องและได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่จะขึ้นกับการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ไม่แน่นอน เลือก KCE SCGP TU MINT (ทั้งนี้ KCE SCGP แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว หลังมีแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาอ่อนแอ)
4.สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Bent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP
หุ้น TOP PICKS วันนี้
- TOP ระยะสั้นคาดได้อานิสงส์จากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน ขณะที่ค่าการกลั่นฟื้นจากจุดต่ำสุดแล้ว หนุนโดยความต้องการใช้น้ำมันเบนซินและน้ำมันเครื่องบินตามฤดูกาล คาดผลการดําเนินงานของธุรกิจอะโรเมติกส์ปรับตัวดีขึ้นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากอุปทานที่ตึงตัวในเอเชีย
- HANA มองผลการดำเนินงานจะทยอยฟื้นตัวใน 2Q67 และคาดฟื้นตัวชัดเจนใน 2H67 หนุนจากวงจรการเปลี่ยนสมาร์ทโฟน AI ธุรกิจ RFID และธุรกิจ PMS คาดไม่ได้รับผลกระทบจากราคาทองแดงและทองคำที่เพิ่มขึ้น เพราะส่งผ่านต้นทุนวัตถุดิบไปยังลูกค้าได้ และได้รับผลกระทบจำกัดจากการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ
ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม
1. ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ มิ.ย. โดย ISM ปรับลดลงสู่ระดับ 48.5 ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง พ.ค. ลดลง 0.1%MoM สวนทางตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.2%MoM
2. ศาลฎีกาสหรัฐระบุโดนัลด์ ทรัมป์และอดีต ปธน. คนอื่นๆ ได้รับการคุ้มครองบางส่วนจากการดำเนินคดีทางอาญา ถือเป็นชัยชนะทางกฎหมายครั้งสำคัญของผู้สมัครชิงตำแหน่ง ปธน. จากพรรครีพับลิกัน
3. ผลการเลือกตั้งรอบแรกของฝรั่งเศส พรรคแนวร่วมแห่งชาติ (RN) พรรคขวาจัดชนะการเลือกตั้ง แต่ยังไม่สามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภา ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งรอบ 2 ในวันที่ 7 ก.ค.
4. ก. พลังงานเตรียมประชุมศึกษาแผนการผลิตไฟฟ้าตาม PDP ฉบับใหม่ (PDP2024) ที่ปรับสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. จากปัจจุบันที่ 29% เหลือ 17% ในช่วงปลายแผนฯ ปี 2580 ต้องไปทบทวนรูปให้หมาะสมกับความสามารถในการลงทุนของ กฟผ.
5. BOI ระบุปัจจุบันมี 37 โครงการ data center และ cloud service ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมูลค่ากว่า 9.86 หมื่นลบ. โดยไทยเป็นหนึ่งใน ปท. ยุทธศาสตร์การลงทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของ AI
6. ก. คลังระบุความคืบหน้าจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ใหม่ว่า จะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือนนี้ โดยขณะนี้มี 2 ทางเลือก คือ จัดตั้งเป็นกองใหม่กองที่ 3 หรือ ระดมทุนมาใส่ไว้ในกองเดิมเพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการจัดตั้ง
7. วานนี้ ตลท. บังคับใช้ Uptick rule เป็นวันแรก มูลค่า Short Sales เหลือ 1,196 ลบ. ลดลงจาก มิ.ย. ที่มีมูลค่า Short Sales เฉลี่ยวันละ 6,946 ลบ.
ข่าวเด่น