ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (2 ก.ค.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,331.85 จุด เพิ่มขึ้น 162.33 จุด หรือ +0.41%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,509.01 จุด เพิ่มขึ้น 33.92 จุด หรือ +0.62% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,028.76 จุด เพิ่มขึ้น 149.46 จุด หรือ +0.84% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีทุนจดทะเบียนสูงปิดตลาดพุ่งขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐชะลอตัวลง โดยหุ้นแอปเปิ้ล ดีดตัวขึ้น 1.6% หุ้นอะเมซอน พุ่งขึ้น 1.4% หุ้นอัลฟาเบท บวก 1.1% หุ้นเมตา แพลต ฟอร์ม บวก 1%
หุ้นเทสลา ทะยานขึ้น 10.40% ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนม.ค. หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดการส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 443,956 คัน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 439,000 คัน และสูงกว่าระดับ 386,810 คันในไตรมาส 1/2567
หุ้นพาราเมาท์ โกลบอล พุ่งขึ้น 5.7% หลังมีรายงานข่าวว่าบริษัทไอเอซี (IAC) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทสื่อดิจิทัลของมหาเศรษฐีแบร์รี ดิลเลอร์ ให้ความสนใจที่จะเข้าเทคโอเวอร์กิจการพาราเมาท์ โกลบอล
หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 0.6% หลังบริษัทเปิดเผยยอดขายรถยนต์ในสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 696,086 คันในไตรมาส 2/2567 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4/2563
หุ้นโนโว นอร์ดิสค์ (Novo Nordisk) ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาสัญชาติเดนมาร์กและจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐ ปรับตัวลง 1.7% หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และวุฒิสมาชิกเบอร์นี แซนเดอร์ส ได้เรียกร้องให้บริษัทโนโว นอร์ดิสค์ ปรับลดราคายาโอเซมปิก (Ozempic) ซึ่งใช้รักษาโรคเบาหวาน และยาวีโกวี (Wegovy) ซึ่งเป็นยาลดความอ้วน
ส่วนหุ้นอิไล ลิลลี (Eli Lilly) ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งของโนโว นอร์ดิสค์ และเป็นผู้ผลิตยาลดความอ้วน มอนจาโร (Mounjaro) ปิดตลาดปรับตัวลง 0.8%
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาที่จัดขึ้นโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่เมืองซินตรา ประเทศโปรตุเกสเมื่อวานนี้ โดยกล่าวว่า เฟดมีความคืบหน้าอย่างมากในการทำให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย โดยตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดและครั้งก่อนหน้าบ่งชี้ว่าเฟดได้กลับสู่เส้นทางในการทำให้เงินเฟ้อลดลงแล้ว แต่เฟดต้องการความมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังปรับตัวลงสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน ก่อนที่จะเริ่มต้นกระบวนการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยเฟดตระหนักว่า หากเราปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป เราก็อาจจะทำลายผลงานที่ดีที่เราได้ทำมา แต่ถ้าเราปรับลดอัตราดอกเบี้ยช้าเกินไป สิ่งนี้ก็อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวและการขยายตัวของเศรษฐกิจ
สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เมื่อคืนนี้ โดยระบุว่าตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 221,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.14 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.96 ล้านตำแหน่ง แต่ตัวเลขการเลย์ออฟพนักงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.65 ล้านตำแหน่ง
การรายงานข้อมูล JOLTS มีขึ้นก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 189,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 272,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.0% ในเดือนมิ.ย.
วอลุ่มการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเบาบางเมื่อคืนนี้ และคาดว่าวอลุ่มจะยังคงเบาบางเช่นนี้ตลอดทั้งสัปดาห์ เนื่องจากตลาดจะปิดทำการเร็วขึ้นในวันพุธ (3 ก.ค.) และจะปิดทำการซื้อขายตลอดทั้งวันในวันพฤหัสบดี (4 ก.ค.) เนื่องในวันชาติสหรัฐ
ข่าวเด่น