ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ตลาดหุ้นไทยเปิด (12 ก.ค.67) ลบ 1.84 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,327.53 จุด


 

ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (12 ก.ค.67) ดัชนีอยู่ที่ 1,327.53 จุด ลบ 1.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,605.35 ล้านบาท

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมิน SET วันนี้ เงินเฟ้อสหรัฐในเดือน มิ.ย. ที่ชะลอตัวต่อเนื่อง คาดช่วยหนุน SET ได้ในช่วงแรก อย่างไรก็ตาม มองดัชนีขึ้นมาสะท้อนความหวังการลดดอกเบี้ยของเฟดใน ก.ย. ระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้นทิศทางการเคลื่อนไหวให้ระวังแรงขายทำกำไรเหมือนตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืน ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1335-1340 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1320-1325 จุด

ช่วงสั้นมอง SET ยังเปราะบางและแกว่งตัวในกรอบแคบ หลังการเมืองในประเทศยังยืดเยื้อ  ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศน่าจะได้รับแรงหนุนจากท่าทีของประธานเฟดที่ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น อีกทั้งดัชนี CPI มิ.ย. ของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเหลือ 3.0%YoY ท่ามกลางตัวเลขตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

กลยุทธ์การลงทุน

ตลาดหุ้นไทย ยังเปราะบางและแกว่งตัวในกรอบแคบ ระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศและปัจจัยหนุนใหม่ๆ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้

1.หุ้นที่คาดจะได้อานิสงส์ Cover Short หลัง ตลท. เริ่มใช้มาตรการ Uptick ตั้งแต่ 1 ก.ค. 67 และเป็นหุ้นพื้นฐานดีมี ESG Rating ระดับ A-AAA เลือก HANA TOP BEM MINT OSP BBL SCGP AOT

2.หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากแผนปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ใหม่ โดยขยายวงเงินเป็น 3 แสนบาทและลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี เลือก ADVANC CPALL BDMS BBL BEM GULF

3.หุ้น Global Play ที่คาดผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องและได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่จะขึ้นกับการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ไม่แน่นอน เลือก SCGP TU MINT (ทั้งนี้ SCGP แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว หลังมีแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาอ่อนแอ)

4.สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

หุ้น TOP PICKS วันนี้ 

- CPALL 2Q67 คาดกำไรปกติโต 26%YoY ดีสุดในกลุ่มพาณิชย์ จากยอดขายและมาร์จิ้นดีขึ้น และส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจาก CPAXT คาดกำไร 2H67 โต YoY โดดเด่นกว่าบริษัทอื่นในกลุ่มฯ อีกทั้งมองเป็น proxy ของกลุ่มฯ ที่จะได้ประโยชน์จากความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต (เป็น upside ต่อประมาณการ)

- GPSC มองมีปัจจัยบวกระยะสั้นจากค่าก๊าซปรับลงและข่าว กกพ. มีมติเห็นชอบปรับขึ้นค่า Ft งวดใหม่ ก.ย.-ธ.ค.67 ขณะที่กำไรปกติ 2Q67 คาดปรับตัวดีขึ้น YoY และ QoQ จากการได้ประโยชน์ต้นทุนก๊าซที่ลดลงและส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก Avaada และ CFXD แนะนำเข้าซื้อวันนี้ราคาไม่เกิน 42 บ.

ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม

1. สหรัฐรายงานดัชนี CPI ทั่วไป มิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.0%YoY ต่ำกว่าตลาดคาด ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.3%YoY ต่ำกว่าตลาดคาด ทำให้ นลท. มีความหวังว่า Fed จะปรับลด ดบ. 0.25% ในการประชุม ก.ย.

2. IEA คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกจะโตช้าลงเหลือราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งในปี 2567 และปี 2568 จากการบริโภคของจีนที่หดตัวใน 2Q67 ท่ามกลางความท้าทายทาง ศก.

3. ม. หอการค้าไทยระบุดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มิ.ย.67 ปรับลงต่อเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน นับตั้งแต่ ต.ค.66 จากกังวลการเมืองไทยเริ่มขาดเสถียรภาพ ราคาพลังงานสูงขึ้น ศก. โลกชะลอ สงครามในตะวันออกกลางยืดเยื้อ

4. ธปท. ระบุได้หารือกับกรรมการผู้จัดการของ ธพ. ขนาดใหญ่และผู้แทนสมาคมธนาคารไทยเมื่อ 10 ก.ค. เพื่อผลักดันมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้อย่างทันท่วงที

5. Honda Motor ระบุมีแผนที่จะลดกำลังการผลิตรถยนต์ในไทยมากกว่า 50% จากระดับ 2.7 แสนคันต่อปี เหลือเพียง 1.2 แสนคันต่อปี ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงกับคู่แข่งจากจีน

6. นายกฯ ระบุจะมีการแถลงรายละเอียดโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในวันที่ 24 ก.ค. ทั้งในเรื่องงบประมาณ และประเภทสินค้าที่จะร่วมในโครงการ ด้าน ก. คลัง ระบุแม้ลดวงเงินลงแต่คาดยังช่วยหนุน GDP โต 1.3-1.8% ตามที่ประเมินไว้ตั้งแต่ต้นของการคิดโครงการ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 ก.ค. 2567 เวลา : 10:42:16

08-09-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ September 8, 2024, 6:50 am