ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงค่อนข้างรุนแรง หลังจากขึ้นไปแถวบริเวณ 2,470 เหรียญ แต่ไม่สามารถผ่านทะลุไปได้ แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ได้แก่ Unemployment Claims ออกมาเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์เป็นอย่างมาก ซึ่งบ่งชี้ได้ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯเริ่มอ่อนแอลง คนว่างงานมากขึ้น ขณะที่ Philly Fed Manufacturing Index ออกมาเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์เป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯชะลอตัวลงไม่มากนัก ทำให้เกิดแรงเทขายในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,665.02 จุด ลดลง 533.06 จุด หรือ -1.29% ขณะที่ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยเมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 103.70 จุด และปิดที่ระดับ 104.18 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 104.26 จุด เรียกได้ว่าดัชนีดอลลาร์ดีดกลับขึ้นมาเหนือ 104 จุดอีกครั้ง ทำให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าขึ้นจากระดับ 35.87 บาทต่อดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 36.24 บาทต่อดอลลาร์ในเช้านี้ ขณะที่กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 2.01 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 840.01 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำมีแรงเหวี่ยงจากการขายทำกำไร โดยกลับมาพักฐานอยู่บริเวณจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 2,430 เหรียญ สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 2,400 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,460 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,430 เหรียญ และแนวต้าน 2,490 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,405 เหรียญ และแนวต้าน 2,465 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 41,200 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 41,800 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q24 จะมีแนวรับที่ระดับ 41,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 42,350 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเน้นเทรดระยะสั้น เก็งกำไรในกรอบลงซื้อขึ้นขาย รอดูความชัดเจนของทิศทาง ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น