(225)(54).jpg)
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (25 ก.ค.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,935.07 จุด เพิ่มขึ้น 81.20 จุด หรือ +0.20% ขานรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐ ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ของ GDP ประจำไตรมาส 2/2567 GDP ขยายตัว 2.8% เทียบกับไตรมาส 1/2567 ที่ขยายตัวเพียง 1.4% จากแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.1%
อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,399.22 จุด ลดลง 27.91 จุด หรือ -0.51% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,181.72 จุด ลดลง 160.69 จุด หรือ -0.93%
ทั้งนี้ หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารร่วงลง 1.86% ตามด้วยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 1.14% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 1.47% และ 0.76% ตามลำดับ
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.6% ในเดือนพ.ค. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.6% ในเดือนพ.ค.
ข่าวเด่น