ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ตลาดหุ้นไทยเปิด (5 ส.ค.67) ลบ 18.02 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,295.65 จุด โบรกฯชี้ตลาดหุ้นไทยเผชิญความผันผวนจากปัจจัยภายใน-ภายนอกกดดัน


 

ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (5 ส.ค.67) ดัชนีอยู่ที่ 1,295.65 จุด ลบ 18.02 จุด หรือลดลง 1.37% มูลค่าการซื้อขาย 1,681.17 ล้านบาท 

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ประเมิน SET วันนี้ เผชิญปัจจัยกดดัน โดยปัจจัยภายนอกมีความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว ขณะที่ปัจจัยภายในกังวลด้านการเมือง เนื่องด้วยวันที่ 7 ส.ค. ศาลฯ นัดฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ทำให้คาดดัชนีปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,305 และ 1,300 จุด ตามลำดับ ส่วนกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,318 และ 1,325 จุด ตามลำดับ

ช่วงสั้นมอง SET จะปรับลงตามตลาดหุ้นโลก เนื่องจากกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย อีกทั้งยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศ และต้องติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและสงครามเทคโนโลยีที่มีท่าทีรุนแรงขึ้นซึ่งอาจส่งผลต่อบรรยากาศลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกได้

อย่างไรก็ดี มอง SET ยังมีโอกาสปรับลงน้อยกว่าตลาดหุ้นโลก จากการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการ 2Q67 ของบจ. ไทยกลุ่ม Real Sector ซึ่งคาดจะฟื้นตัวดีขึ้น และเริ่มเห็น Fund Flow ไหลเข้าสู่ตลาด EM มากขึ้น ซึ่งคาดไทยมีแนวโน้มจะได้รับกระแสเงินนี้ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

กลยุทธ์การลงทุน

มองตลาดหุ้นไทยจะปรับลงจากกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย แต่ยังมีโอกาสปรับลงน้อยกว่าตลาดหุ้นโลก จากงบ 2Q67 ของบจ. ไทยกลุ่ม Real Sector ซึ่งคาดจะฟื้นตัวดีขึ้น และเริ่มเห็น Fund Flow ไหลเข้าสู่ตลาด EM มากขึ้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้

1) หุ้นกลุ่ม Earnings Play ซึ่งจะมีการประกาศงบ 2Q67 ในสัปดาห์หน้า โดยคาดกำไรจะยังสามารถเติบโต YoY อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง เลือก ADVANC TU CPAXT BTG CBG BCP GPSC AU

2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ใหม่ โดยขยายวงเงินเป็น 3 แสนบาทและลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว เลือก ADVANC AOT CPALL BDMS BBL KTB GULF

3) หุ้นคาดได้อานิสงส์ Cover Short หลัง ตลท. เริ่มใช้มาตรการ Uptick และเป็นหุ้นพื้นฐานดีมี ESG Rating ระดับ A-AAA หรืออยู่ใน Global Sustainability Index เลือก DELTA TOP BEM AOT

4) ราคาน้ำมันดิบ Brent ฟื้นตัว จากความไม่สงบในตะวันออกกลางที่รุนแรงมากขึ้น และยังมีการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันในรัสเซียกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยประเมินกรอบราคา 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม

1. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ก.ค. ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.14 แสน ตำแหน่ง ต่ำกว่าคาด ส่วนอัตราว่างงาน ก.ค. ที่ 4.3% สูงสุดนับตั้งแต่ ต.ค. 64 สร้างความวิตกว่าตลาดแรงงานอ่อนแอ เศรษฐกิจเสี่ยงถดถอย

2. กระทรวงการคลังของจีนเตรียมเพิ่มวงเงิน 3.5 หมื่นล้านหยวน ออกพันธบัตรรัฐบาลอายุยาวนานพิเศษชุดที่ 3 ของปีนี้ ในวันที่ 9 ส.ค. เป็นนโยบายการคลังเชิงรุกประจำปีนี้ ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของตลาด

3. ติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนระบุว่าความขัดแย้งกับอิสราเอลได้เข้าสู่เฟสใหม่แล้ว

4. Nvdia ระบุข้อบกพร่องในการออกแบบอาจทำให้การเปิดตัวชิป AI รุ่นใหม่ล่าช้ามากกว่า 3 เดือนกระทบกับบรรดาลูกค้า Nvdia เช่น Meta Google Microsoft รวมมูลค่ากว่าหมื่นล้านเหรียญ

5. วันนี้ติดตามธนาคารแห่งประเทศไทย แถลงช่วยกลุ่มเปราะบางยืดอายุเกณฑ์ผ่อนชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิต 8% อีก 1 ปี เพิ่มแรงจูงใจปิดหนี้เร็วขึ้น โดยให้เครดิตเงินคืนลูกหนี้ที่ผ่อนชำระเกินขั้นต่ำ พร้อมขยายเวลาปิดจบหนี้จากภายใน 5 ปี เป็น 7 ปี เพื่อให้ค่างวดที่ต้องชำระปรับลดลง

6. ธพ. ระบุการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 1H67 เฉลี่ยลดลง 0.05%YoY โดยน้ำมันเตาใช้ลดลง 19.7% NGV ลดลง 16.8% และเบนซินลดลง 0.9% ขณะที่น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น 17% LPG เพิ่มขึ้น 3.7% และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ สถานีบริการเพิ่มขึ้น 3%

7. พาณิชย์ระบุต้นทุนขนส่งไทยเพิ่มขึ้นที่ 13.8% ต่อGDP เตรียมหารือกับภาครัฐและเอกชนปรับปรุงฐานข้อมูลธุรกิจโลจิสติกส์ ช่วยภาคธุรกิจลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

ด้าน บล.กสิกรไทย ประเมินตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ฝันผวน โดยประเมินกรอบซื้อขายของดัชนีที่ 1,280-1,310 จุด ดัชนีตลาดอาจปรับตัวลงแรงช่วงต้นสัปดาห์ตาม sentiment ลบจากต่างประเทศ หลังสหรัฐฯ ประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรต่ำคาด โดยรายงานที่ 1.14 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 1.76 แสนตำแหน่ง และลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.79 แสนตำแหน่ง รวมถึงอัตราการว่างงานที่เร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 4.1% ในเดือนก่อนหน้า ขึ้นมาแตะที่ระดับ 4.3% ส่งผลให้ตลาดกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอตัวลงแรงและเข้าสู่ภาวะ recession

ขณะที่ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศ ประเด็นเรื่องการเมืองสัปดาห์นี้ติดตามศาลรัฐธรรมนูญมีกำหนดอ่านศาวินิจฉัยคดียบพรรคก้าวไกลในวันพุธที่ 7 ส.ค. 2567 ด้วยบรรยากาศการลงทุนมีปัจจัยลบกดดันทั้งจากในและต่างประเทศ แนะนำนักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน 

กลยุทธ์การลงทุน ในสัปดาห์นี้แนะนำหุ้นในกลุ่ม defensive ที่ให้ปันผลสูง แนวโน้มผลประกอบการดีและมีเสถียรภาพ เช่น GULF ADVANC SCB BH PR9

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 ส.ค. 2567 เวลา : 10:53:34

23-10-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 23, 2024, 2:34 pm