ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,425 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,450 เหรียญ


ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำมีการแกว่งตัวขึ้นลงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ขึ้นไปทดสอบ All Time High อีกครั้งที่ระดับ 2,478 เหรียญในวันศุกร์ ก่อนจะมีแรงเทขายอย่างหนักเข้ามาในช่วงปลายตลาดทำให้ราคาทองคำในบางช่วงหลุดลงไปที่ระดับ 2,430 เหรียญ และมาปิดที่ระดับ 2,442 เหรียญ โดยในเช้านี้จะเห็นได้ว่าราคาทองคำยังมีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯในวันศุกร์ดูจะอ่อนแอลง ได้แก่ Average Hourly Earnings m/m, Non-Farm Employment Change และ Factory Orders m/m ออกมาลดลงจากที่คาดการณ์ ขณะที่ Unemployment Rate ออกมาเพิ่มขึ้นจากที่คาดกาณ์ โดยหลังจากการเปิดเผยข้อมูลแสดงให้เห็นว่า อัตราการว่างงานในสหรัฐเพิ่มขึ้นอีกในเดือนก.ค. ทำให้นักเศรษฐศาสตร์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา, บาร์เคลย์ส, ซิตี้กรุ๊ป, โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป และ เจพีมอร์แกน เชส ต่างเรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเร็วขึ้นหรือมากขึ้น รวมถึงนักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้กรุ๊ปคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในเดือนก.ย.และพ.ย. และอีก 0.25% ในเดือนธ.ค. ขณะที่ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันศุกร์โดยเปิดที่ระดับ 104.31 จุด และเคลื่อนตัวระหว่าง 103.13-104.43 จุด ก่อนจะปิดที่ระดับ 103.22 จุด ซึ่งจะเห็นได้ว่าดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากที่ขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ 104.6 จุด แต่ไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ แสดงให้เห็นว่าภาพรวมดัชนีดอลลาร์เข้าสู่แนวโน้มทิศทางอ่อนค่า ขณะที่ค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์เปิดที่ระดับ 35.57 บาทต่อดอลลาร์ โดยเช้านี้แข็งค่าลงมาอีกที่ระดับ 35.28 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ราคาทองไทยร่วงกลับลงมาจากที่ขึ้นไปแตะที่ระดับ 41,000 บาทต่อบาททองคำ มาอยู่ที่ระดับ 40,600 บาทต่อบาททองคำในเช้านี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.25 % มาอยู่ที่ระดับ 3.732% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.37 % มาอยู่ที่ระดับ 3.785% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.05% ซึ่งจะเห็นได้ว่าภาวะ inverted yield curve ใกล้จะสิ้นสุดลง และแสดงให้เห็นถึงภาวะ Soft landing แทน โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Final Services PMI คาดการณ์ว่าจะออกมาใกล้เคียงเดิม และ ISM Services PMI คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม อย่างไรก็ดี ปัจจัยหลักๆที่น่าจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในขณะนี้ น่าจะเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และดัชนีดอลลาร์เป็นสำคัญ

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิคราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาขึ้น โดยมีการเทขายทำกำไรเป็นช่วงๆ โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,425 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,450 เหรียญ

สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,450 เหรียญ และแนวต้าน 2,475 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,470 เหรียญ และแนวต้าน 2,495 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 40,400 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 40,900 บาท/บาททองคำ

Gold Futures Series Q24 จะมีแนวรับที่ระดับ 40,700 บาท และแนวต้านที่ระดับ 41,100 บาท

โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง



กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ปิดสถานะ Long เพื่อทำกำไรบางส่วน ยังเน้นเทรดซื้อขายตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้น และปิดทำกำไรตามรอบ เน้นเทรดระยะสั้นลง ระวังเเรงเทขายทำกำไร

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 ส.ค. 2567 เวลา : 13:42:58

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:53 am