ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (8 ส.ค.67) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 30.90 ดอลลาร์ หรือ 1.27% ปิดที่ 2,463.30 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ธนาคารหลายแห่ง รวมถึง เจพีมอร์แกน, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก ที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาด
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 72% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 70% ในวันจันทร์ และคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนธ.ค.ปีนี้
ด้าน อเล็กซ์ เอ็บคาเรียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท Allegiance Gold กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง และทิศทางราคาทองคำจะขึ้นอยู่กับว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากเท่าใด โดยหากเฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ราคาทองคำก็จะมีแนวโน้มพุ่งขึ้นอย่างมาก และจะช่วยหนุนราคาโลหะมีค่าประเภทอื่น ๆ ดีดตัวขึ้นด้วย
นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยนักลงทุนมองว่าเหตุการณ์ลอบสังหารแกนนำของกลุ่มฮามาสและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะทำให้อิหร่านเปิดฉากล้างแค้นอิสราเอล ซึ่งอาจจะส่งผลให้วิกฤตการณ์ในตะวันออกกลางลุกลามเป็นวงกว้าง
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันที่ 14 ส.ค. รวมทั้งการประชุมประจำปีของเฟดซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 22-24 ส.ค.นี้ ซึ่งคาดว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังเงินเฟ้อของสหรัฐเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลง
ข่าวเด่น