ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (13 ส.ค.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,765.64 จุด เพิ่มขึ้น 408.63 จุด หรือ +1.04%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,434.43 จุด เพิ่มขึ้น 90.04 จุด หรือ +1.68% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,187.61 จุด เพิ่มขึ้น 407.00 จุด หรือ +2.43% หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้
โดย กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 2.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.3% จากระดับ 2.7% ในเดือนมิ.ย.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.7% จากระดับ 3.0% ในเดือนมิ.ย.
ด้าน ไมเคิล เจมส์ กรรมการผู้จัดการด้านการซื้อขายหลักทรัพย์บริษัท Wedbush Securities กล่าวว่า ตัวเลขดัชนี PPI พื้นฐานเป็นปัจจัยสนับสนุนมุมมองที่ว่า เฟดได้ดำเนินการอย่างดีเยี่ยมในการทำให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ และทำให้ตลาดมีความมั่นใจมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพุธนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะมีอิทธิพลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดอย่างมาก”
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 55% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำกว่า 50% ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี PPI
หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุด โดยพุ่งขึ้น 3% และ 2.42% ตามลำดับ ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.02% หลังจากราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลง โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปี 2567
หุ้นสตาร์บัคส์ ทะยานขึ้น 24.5% และเป็นหุ้นที่ปรับตัวแข็งแกร่งที่สุดในดัชนี S&P500 หลังจากสตาร์บัคส์ประกาศแต่งตั้งนายไบรอัน นิคโคล ผู้บริหารของชิโปตเล เม็กซิกัน กริลล์ (Chipotle Mexican Grill) ให้เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอคนใหม่ของสตาร์บัคส์
หุ้นโฮม ดีโปท์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ปิดตลาดดีดตัวขึ้น 1.2% หลังจากที่ร่วงลงในระหว่างวัน จากการที่บริษัทปรับลดคาดการณ์กำไรในปีงบการเงิน 2567
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันนี้ (14 ส.ค.) อย่างใกล้ชิด รวมทั้งรอดูรายงานยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ค.ในวันพฤหัสบดี (15 ส.ค.) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของเฟด
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค จะเพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 3.0% เช่นกันในเดือนมิ.ย. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.3% ในเดือนมิ.ย.
ข่าวเด่น