ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นกว่า 2% ในวันศุกร์ หลังจากที่ภาพรวมตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมเดือนก.ย.นี้ แต่ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับขนาดของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดที่จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิงในวันศุกร์ที่ 23 ส.ค. ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสงครามรัสเซียและยูเครนยังคงต่อเนื่อง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯโดยทั่วไปยังคงแข็งแกร่งและภาคการค้าปลีกยังขยายตัวได้ดี ด้านดัชนีดอลลาร์ยังคงอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าลงมา โดยในวันศุกร์เปิดที่ระดับ 103.04 จุด และปิดที่ระดับ 102.40 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 102.38 จุด ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากหลุดระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์ลงมา โดยเช้านี้อยู่ที่ 34.54 บาทต่อดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทองไทยไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้มากนักโดยยังคงเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวันศุกร์ซื้อเข้า 7.19 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 854.97 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้น และทำ All Time High ใหม่ที่ระดับ 2,510 เหรียญ โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 2,470 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,510 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,490 เหรียญ และแนวต้าน 2,530 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,510 เหรียญ และแนวต้าน 2,550 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 40,400 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 41,000 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q24 จะมีแนวรับที่ระดับ 41,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 41,500 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ปิดสถานะ Long เพื่อทำกำไรบางส่วน ยังเน้นเทรดซื้อขายตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้น และปิดทำกำไรตามรอบ เน้นเทรดระยะสั้นลง ระวังเเรงเทขายทำกำไร
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น