ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (19 ส.ค.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,896.53 จุด เพิ่มขึ้น 236.77 จุด หรือ +0.58%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,608.25 จุด เพิ่มขึ้น 54.00 จุด หรือ +0.97% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,876.77 จุด เพิ่มขึ้น 245.05 จุด หรือ +1.39% โดยภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก ซึ่งได้แรงหนุนจากนักลงทุนคลายความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ และมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 22-24 ส.ค. โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในวันศุกร์ที่ 23 ส.ค. เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักลงทุนต่างคาดหวังว่านายพาวเวลจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
พอล นอลเต้ นักกลยุทธ์ด้านการตลาด บริษัท Murphy & Sylvest ในรัฐอิลลินอยส์ คาดการณ์ว่า นายพาวเวลจะเน้นย้ำถึงมุมมองที่ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐกำลังชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดและเศรษฐกิจก็กำลังดำเนินไปด้วยดี ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวจะทำให้ตลาดตีความว่าเฟดมีความพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ภายในสิ้นปี 2567 และคาดว่าสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ เนื่องจากเงินเฟ้อชะลอตัวลง
ด้าน ทีมนักวิเคราะห์ โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้าลงเหลือ 20% จากเดิมที่ระดับ 25% หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่สูงเกินคาดและตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลง
ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตในสัปดาห์นี้ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เตรียมกล่าวปราศรัยเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับส่งไม้ต่อให้แก่นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ในการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในศึกเลือกตั้งเดือนพ.ย.
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มบริการด้านการสื่อสารพุ่งขึ้น 1.44% และ 1.43% ตามลำดับ
หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.5% หลังจาก AMD ประกาศแผนการเข้าซื้อกิจการบริษัท ZT Systems ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ ในวงเงิน 4.9 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอในธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้สามารถแข่งขันกับอินวิเดีย (Nvidia) ได้ดียิ่งขึ้น
ข่าวเด่น