ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ตลาดหุ้นไทยเปิด (23 ส.ค.67) บวก 1.81 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,342.84 จุด



ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (23 ส.ค.67) เวลา 9.56 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,342.84 จุด บวก 1.81 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,846.91 ล้านบาท

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมิน SET วันนี้ มี upside จำกัด บริเวณแนวต้าน 1345 และ 1350 จุด ตามลำดับ โดยนักลงทุนรอติดตามประชุม Jackson Hole ในคืนนี้ เพื่อรอประเมินการส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยของเฟด ทำให้คาดว่าแรงซื้อจะชะลอลง รวมถึงดัชนีมีโอกาสเผชิญแรงขายลดความเสี่ยงก่อนการประชุมดังกล่าวให้อ่อนตัวได้ โดยมีแนวรับที่ 1330 และ 1325 จุด ตามลำดับ

ช่วงสั้นมอง SET จะยังผันผวนระหว่างรอการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เพื่อทราบถึงนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายการบริหารประเทศ โดยประเมินแนวต้านบริเวณ 1350-1360 จุด ขณะที่ตัวเลข PMI ส.ค. ของสหรัฐออกมาร่วงต่ำสุดในรอบ 4 เดือนส่งผลให้ตลาดมองถึงการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด สอดคล้องกับรายงานการประชุมเฟด กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

กลยุทธ์การลงทุน

แม้มอง SET จะผันผวนระหว่างรอจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เพื่อทราบถึงนโยบายเศรษฐกิจ แต่ยังคาดหวังตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวจาก Fund Flow ที่เริ่มไหลเข้าสู่ตลาด EM มากขึ้นและสุญญากาศการเมืองที่สั้นลง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้

1.หุ้นกลุ่ม Earnings Play ซึ่งมีโมเมนตัมกำไรยังดี โดย 3Q67 คาดเติบโต YoY และ QoQ ส่วน 2H67 คาดเติบโต HoH และ YoY อีกทั้ง Valuation ไม่แพง เลือก DELTA GULF TU BTG BDMS TRUE BEM

2.นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำและต้องการสร้างกระแสเงินสดในพอร์ต แนะนำหุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะสั้น เลือก BCP (คาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลคิดเป็น Div. Yield 2%) และ TU (ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.31 บ./หุ้น คิดเป็น Div. Yield ราว 2%)

3.หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ใหม่ โดยขยายวงเงินเป็น 3 แสนบาทและลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว เลือก ADVANC AOT BDMS BBL CPALL KTB GULF

4.ราคาน้ำมันดิบ Brent ฟื้นตัว จากความไม่สงบในตะวันออกกลางที่รุนแรงมากขึ้น และยังมีการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันในรัสเซียกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยประเมินกรอบราคา 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

หุ้น TOP PICKS วันนี้

CPAXT มองเป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์รายหลักของกลุ่มพาณิชย์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังจะออกมา (ดิจิทัลวอลเล็ต/ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) ทั้งนี้ด้วย SSS ที่เติบโตแข็งแกร่งกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในกลุ่มพาณิชย์ จึงคาดกำไร 3Q67 จะเติบโต YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น ต่อจากนั้นกำไรจะทำจุดสูงสุดของปีนี้ใน 4Q67

AOT มองเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้อานิสงส์จากแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย และราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวหลังปลดล็อก overhang หยุดประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าไปแล้ว ขณะที่กำไรยังมีแนวโน้มปรับขึ้นสอดคล้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่เติบโต โดยประเมินกําไรปกติ 4QFY67 (ก.ค.-ก.ย.67) จะเติบโต YoY และปี FY2567 มีกำไรปกติโตเด่น 109%YoY

ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม

1. ก.ล.ต. เผยส่งเสริมและพัฒนาตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย รวมทั้งคุ้มครองผู้ลงทุน พร้อมผลักดันระดมทุนผ่าน Investment Token โดยเฉพาะกลุ่ม Green Project และ Soft Power ส่วน Utility Token ได้เสนอสรรพากรให้เก็บภาษีรอบเดียว

2. รมว. พลังงานเผยได้ประชุมคณะทำงานพิเศษเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันซึ่งขณะนี้ได้ยกร่างเสร็จแล้วและอยู่ระหว่างให้คณะผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเพื่อเข้าที่ประชุม ครม. และนำเข้าสู่การพิจารณาสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

3. วันนี้ติดตาม ส.อ.ท. สภาหอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย จะเข้าหารือกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเกี่ยวกับการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจและการขับเคลื่อนนโยบายร่วมกัน

4. อดีตนายกฯ ทักษิณ เผยมองนโยบายการเงินการคลังต้องประสานกัน ปรับโครงสร้างภาษีใช้ Negative Income Tax ขยายสุวรรณภูมิดึงท่องเที่ยว ดึงเอกชนลงทุน 1 แสนลบ. เดินหน้า Entertainment Complex, ดึงเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นบนดิน

5. อดีตนายกฯ ทักษิณ เผยรัฐบาลมีแผนแจกเงินหมื่นให้แก่กลุ่มเปราะบาง-พิการ 1.45 แสนลบ. กระตุ้นศก. ในก.ย. ขณะที่เล็งใช้งบปี 68 แจกเงินหมื่นต่อเนื่องผ่านดิจิทัลวอลเล็ตให้แก่กลุ่มลงทะเบียน 30 ล้านคน หลัง ต.ค. นี้

6. คืนนี้ 21.00 น. ติดตามสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% หรือ 0.50%

7. Greenpeace เผยการออกใบอนุญาตก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ในจีนช่วง 1H67 เพียง 14 แห่ง รวม 10.3GW ลดลงมากถึง 80%YoY จากกำลังการผลิตไฟฟ้าจากลมและโซลาร์ที่เร่งตัวขึ้นมาก

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 ส.ค. 2567 เวลา : 10:43:26

23-10-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 23, 2024, 2:23 pm