ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (26 ส.ค.67) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.90 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 2,555.20 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
โดยนายพาวเวลกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ส.ค.) ว่า “ถึงเวลาแล้วที่เฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยลง โดยทิศทางที่จะมุ่งไปสู่การดำเนินการดังกล่าวมีความชัดเจน ส่วนช่วงเวลาและขนาดของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้น จะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เฟดได้รับในวันข้างหน้า รวมทั้งแนวโน้มของพัฒนาการทางเศรษฐกิจ และความสมดุลของความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ”
นักลงทุนมองว่า ถ้อยแถลงของนายพาวเวลเป็นการสื่อว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนก.ย. ซึ่งจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้ และครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2563
นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีรายงานว่าอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้เปิดฉากโจมตีกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25 ส.ค.) โดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ระบุว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการตอบโต้อิสราเอลที่ลอบสังหารนายฟูอัด ชูกร์ ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของฮิซบอลเลาะห์เมื่อเดือนที่แล้ว
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.5% เช่นกันในเดือนมิ.ย. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนมิ.ย.
ข่าวเด่น