ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 2,505-2,515 เหรียญ โดยยังไม่มีประเด็นข่าวใหม่ๆเข้ามา โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 63.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% และให้น้ำหนัก 36.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. ขณะที่สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงดำเนินต่อไป แต่ไม่ได้ขยายเป็นวงกว้าง โดยวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Crude Oil Inventories คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ด้านดัชนีดอลลาร์ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับล่างโดยเมื่อวานเปิดที่ระดับ 100.82 จุด และเคลื่อนตัวระหว่าง 100.51-100.93 จุด และปิดที่ระดับ 100.55 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 100.68 จุด ขณะที่ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.97 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ราคาทองไทยยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิมระหว่าง 40,350-40,500 บาทต่อบาททองคำ ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 856.12 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำวันนี้เคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบระหว่างแนวรับที่ 2,500 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,525 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,515 เหรียญ และแนวต้าน 2,540 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,535 เหรียญ และแนวต้าน 2,560 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 40,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 40,600 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q24 จะมีแนวรับที่ระดับ 40,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 40,850 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเน้นเทรดระยะสั้น เก็งกำไรในกรอบลงซื้อขึ้นขาย รอดูความชัดเจนของทิศทาง ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น