ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (6 ก.ย.67) เวลา 9.59 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,413.91 จุด บวก 9.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2,602.75 ล้านบาท
บล.กสิกรไทย ประเมิน SET วันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงผันผวนและปิดผสมผสาน Dow Jones -0.54%, S&P500 -0.30%, Nasdaq Composite +0.25% และ Russell 2000 -0.61% จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมามีทั้งดีและแย่กว่าคาด โดยการจ้างงาน ADP เพิ่มขึ้นเพียง 99,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นจำนวนที่ต่ำที่ต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีครึ่ง ในขณะที่ Initial Jobless Claims ลดลง 5,000 ตำแหน่งเหลือ 227,000 ตำแหน่งและ ISM Services 51.5 มากกว่าคาดเล็กน้อย ตลาดจึงรอการยืนยันจาก Nonfarm payroll ในค่ำวันนี้อีกครั้ง
SET Index ปิดที่ 1,404.28 จุด +2.84% ตลาดได้ปัจจัยบวกอย่างต่อเนื่องจากภายในประเทศ ได้แก่ การแต่งตั้งครม.ชุดใหม่ การเร่งรัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การออกกองทุนวายุภักษ์ การแข็งค่าของค่าเงินบาทช่วยหนุน Fund Inflow และได้ภาพตลาดต่างประเทศที่เมื่อวานนี้ค่อนข้างเป็นใจ จึงทำให้ SET ปรับตัวขึ้นแรงราว 40 จด ปิดเหนือ 1,400 จุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนโดยที่ SET50 ได้ขึ้นทำระดับสูงสุดในปีนี้
โดยกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น ได้แก่ Packaging, ICT และ Petrochemical วันนี้คาด SET น่าจะมีแรงส่งต่อโดยมองกรอบใหม่ที่ระดับ 1,390 - 1,430 ซึ่งกรอบบนตรงกับระดับของดัชนี ณ วันทำการแรกของปีนี้
แนะนำ SYNEX จากประเด็นการเปลี่ยนผ่านอุปกรณ์รวมถึงรายได้ของ Foxconn ที่ขยายตัวแรงในเดือนสิ่งหาคม อีกตัวเลือกหุ้นใหญ่อย่าง CPN ที่ยังค่อนข้าง Laggard และน่าจะเป็นเป้าหมายของกองทุนวายภักษ์
ทั้งนี้ SYNEX ราคาพื้นฐาน 16.56 บาท Foxconn ซึ่งเป็นผู้ผลิตหลักของ Apple รายงานรายได้เพิ่มขึ้น 33% YOY ในเดือนสิงหาคม ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดสำหรับยอดขายในเดือนนี้ แสดงถึงความต้องการสมาร์ทโฟนและเซิร์ฟเวอร์ AI ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณบวกสำหรับ SYNEX ที่ได้รับประโยชน์จากการจำหน่ายสินค้าไอที โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple ในเดือนกันยายนที่คาดว่าจะช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงสินค้าในตลาดได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ การยุติการสนับสนุน Windows 10 ในเดือนตุลาคม 2568 จะเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นการอัปเกรดระบบปฏิบัติการในกลุ่มคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป ล้วนส่งผลดีต่อ SYNEX มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นที่จะเห็น Upside Risk ของรายได้และกำไร แนะนำซื้อด้วยราคาเป้าหมายกลางปี 2568 ที่ 16.56 บาท ทั้งนี้ยังไม่ได้รวมผลของการใช้จ่ายด้าน IT ของภาครัฐและธุรกิจโซลูชันองค์กรใหม่ไว้ในประมาณการกำไรปี 2568
CPN ราคาพื้นฐาน 78.00 บาท จากผลประกอบการที่ค่อนข้างดีใน 2067 ที่กำไรสุทธิเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากทุกกลุ่มธรกิจหลัก ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า ที่ได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการและการเปิดศูนย์การค้าใหม่ ธุรกิจที่อยู่อาศัยที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงธุรกิจโรงแรมแม้จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยตามฤดูกาล แต่บริษัทก็ยังคงควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ แนวโน้มในอนาคตของ CPN ยังคงสดใส โดยมีโครงการใหม่ขนาดใหญ่ที่อยู่ในแผนพัฒนา เช่น โครงการ Central Park ซึ่งเป็นโครงการมิ้กซ์ยูสที่จะเป็นแหล่งสร้างรายได้สำคัญในอนาคต รวมถึงการปรับปรุงโครงการเดิมอย่าง Central Pinklao ua: Central Chiang Mai Airport ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทในระยะยาว ราคาหุ้นของ CPN ในปัจจุบันยังค่อนข้าง Laggard
และคาดว่าจะเป็นที่น่าจับตาของกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นความสนใจจากนักลงทุน ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้จึงแนะนำซื้อด้วยราคาเป้าหมายที่ 78 บาท
ข่าวเด่น