ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (5 ก.ย.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,755.75 จุด ลดลง 219.22 จุด หรือ -0.54%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,503.41 จุด ลดลง 16.66 จุด หรือ -0.30% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,127.66 จุด เพิ่มขึ้น 43.36 จุด หรือ +0.25%
ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทำให้คลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน โดยช่วงเปิดตลาดดัชนีดีดตัวขึ้น แต่แค่ในช่วงสั้น ๆ ก่อนที่จะเทขายหุ้นในเวลาต่อมา หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลที่โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.5 ในเดือนส.ค. จากระดับ 51.4 ในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 51.1 โดยดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการยังคงขยายตัว ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 227,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 230,000 ราย
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 164,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 114,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.2% ในเดือนส.ค. จากระดับ 4.3% ในเดือนก.ค.
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ดิ่งลง 1.39% ตามด้วยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง 1.18% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้น 1.41% ตามด้วยหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารปรับตัวขึ้น 0.52%
หุ้นเทสลา (Tesla) พุ่งขึ้นเกือบ 5% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะเปิดตัวซอฟต์แวร์เพื่อช่วยการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ หรือ FSD (Full Self-Driving) ในยุโรปและจีนในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า โดยซอฟต์แวร์ดังกล่าวรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล
หุ้นเจ็ทบลู แอร์เวย์ส (JetBlue Airways) พุ่งขึ้น 7% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 3
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 99,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2564 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 140,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 111,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.7 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565 จากระดับ 55.0 ในเดือนก.ค. โดยดัชนี PMI สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวในภาคบริการของสหรัฐฯ และเป็นการขยายตัวเป็นเดือนที่ 19 ติดต่อกัน
ข่าวเด่น