ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 2,524 เหรียญ หลังจากที่นักลงทุนให้น้ำหนัก 45.0% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนกันยายนนี้ รวมถึงปัจจัยสนับสนุนจากสงครามรัสเซียและยูเครน โดยล่าสุดรัสเซีย" ยิงขีนาปวุธถล่ม "สถาบันการทหารยูเครน" ในเมืองปอลตาวาทางตอนกลางของประเทศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และการที่รัสเซียออกมาประกาศว่าจะซื้อสกุลเงินต่างประเทศและทองคำเพิ่มขึ้นเป็น 7 เท่าในวันนี้รวมถึงสหรัฐฯ ใกล้ได้ข้อตกลงซึ่งจะเปิดทางให้ยูเครนใช้งานขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลที่สามารถโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ทำให้ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาทองไทยหลุดระดับ 40,000 บาทต่อบาททองคำลงมาอีกครั้ง เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าโดยเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.52 บาทต่อดอลลาร์ สำหรับวันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Average Hourly Earnings m/m และ Non-Farm Employment Change คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ขณะที่ Unemployment Rate คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 862.74 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในทางเทคนิคราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐานทำกำไร โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำยังคงแกว่งตัวในกรอบแนวรับที่ระดับ 2,490 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,525 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,500 เหรียญ และแนวต้าน 2,535 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,520 เหรียญ และแนวต้าน 2,555 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 39,600 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 40,000 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series V24 จะมีแนวรับที่ระดับ 40,150 บาท และแนวต้านที่ระดับ 40,500 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเน้นเทรดระยะสั้น เก็งกำไรในกรอบลงซื้อขึ้นขาย รอดูความชัดเจนของทิศทาง ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น