ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ขึ้นมาที่ระดับ 2,630 เหรียญ หลังจากที่เฟดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ภาพรวมตลาดยังคงโฟกัสไปที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งตลาดยังคงคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษจิกายน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้คือ Flash Manufacturing PMI ลดลงที่ 47.0 จุด จากเดิม 47.9 จุด และ Flash Services PMI ลดลงที่ 55.4 จุด จากเดิม 55.7 จุด ด้านดัชนีดอลลาร์ยังคงทรงตัวอ่อนค่าที่ระดับ 100.96 จุด ยังคงผันผวนในกรอบ 100.2-101.8 จุด ผลักดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่าหลุด 33 บาท/ดอลลาร์ โดยเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.98 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งยังเป็นปัจจัยหลักในการกดดันราคาทองคำไทย ขณะที่กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 875.39 ตัน
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ภาพรวมราคาทองคำยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น และในเชิงเทคนิคราคาเริ่มเข้าสู่โซน Overbought อาจจะมีแรงเทขายทางเทคนิคเข้ามาได้ในระยะสั้น ยังคงแนะนำแบ่งขายเป็นช่วงๆ ย่อซื้อตามกรอบแนวรับ โดยวันนี้มีกรอบแนวรับที่ 2,590 เหรียญ และมีแนวต้านที่ 2,640 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,605 เหรียญ และแนวต้าน 2,645 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,625 เหรียญ และแนวต้าน 2,665 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 40,700 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 41,100 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series V24 จะมีแนวรับที่ระดับ 41,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 41,450 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ราคาทองคำเข้าสู่โซน Overbought ในระยะสั้นอาจมีแรงเทขายทำกำไรทางเทคนิค แนะนำรอจังหวะย่อซื้อตามกรอบแนวรับ ยังเน้นเทรดตามแนวโน้มทิศทางขาขึ้น ปิดทำกำไรตามรอบ และระมัดระวังความผันผวนของราคา
นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น