ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ตลาดหุ้นไทยเปิด (25 ก.ย.67) บวก 8.62 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,470.72 จุด


 

ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (25 ก.ย.67) เวลา 9.58 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,470.72 จุด บวก 8.62 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3,262.85 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ประเมิน ดัชนี SET วันนี้ ยังมี upside จำกัด โดยมองกรอบบนถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1,465-1,470 จุด เนื่องจากแรงส่งของหุ้นขนาดใหญ่ต่าง ๆ ลดน้อยลง จากภาวะ Overbought และเงินบาทที่แข็งค่าแรงและเร็ว สร้างความกังวลต่อภาคการส่งออก ด้านแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,450 และ 1,440 จุด ตามลำดับ หากต่ำกว่า เริ่มเป็นสัญญาณลบ

ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up และเริ่มมี Upside จํากัด แรงหนุนจะมาจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง บวกกับความคาดหวังการออกนโยบายผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมทั้งการแข็งค่าของเงินบาทระยะสั้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยเมื่อเทียบกับภูมิภาค สะท้อนได้จาก Fund Flow ในเดือน ก.ย. ที่ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยแล้วกว่า 3 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจของฝั่งเอเชีย โดยเฉพาะจีน ยังมีแนวโน้มอ่อนแอ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม

1. ธนาคารกลางจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ : ลดดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 7 วัน, ลดอัตราเงินสำรองขั้นต่ำของ ธพ., ลดเงินดาวน์ซื้อบ้านหลังที่สอง และจัดสรรเงินกู้ระยะยาว 1 ล้านล้านหยวน

2. ราชกิจจาฯ เผยแพร่ระเบียบเกณฑ์ประมูลรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟสสองระยะแรกรวม 2,180MW และอนุญาตให้ผู้ที่เคยเข้าร่วมในรอบก่อน แต่ไม่ถูกรับเลือกสามารถเข้าร่วม โดยไม่ต้องแก้ไขคำเสนอไฟฟ้าได้

3. ส.อ.ท. เผยยอดส่งออกรถยนต์ ส.ค. ลดลง 1.7%YoY สู่ 86,066 คัน ส่วนการผลิตลดลง 20.56%YoY สู่ 119,680 คัน โดยทั้งการส่งออกและผลิตลดลงต่ำกว่าช่วงโควิด-19 และใกล้เคียงกับช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง

4. ส.อ.ท. เผยยอดขายรถยนต์ ส.ค. อยู่ที่ 45,190 คัน ลดลง 24.98%YoY จากปัญหา NPL และคาด 3Q67 NPL สินเชื่อรถยนต์จะรุนแรงขึ้น ส่งผลให้สถาบันการเงินเข้มงวดและไม่อนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ต่อเนื่อง

5. รมว.คลัง นัดหารือผู้ว่า ธปท. ในสัปดาห์หน้าถกเงินเฟ้อและค่าเงินบาทแข็งค่า ธปท. พร้อมทบทวนนโยบายหากมีข้อมูลใหม่อย่างมีนัยสำคัญ

6. สถาบันวิจัยเศรษฐกิจสหรัฐ (Conference Board) เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ย. ปรับลงสู่ 98.7 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ ท่ามกลางความกังวลต่อเงินเฟ้อ ตลาดแรงงาน และแนวโน้มรายได้ในอนาคต

7. ก.ล.ต. กำลังศึกษาออกเกณฑ์ใหม่ให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทั้งที่เป็นผู้บริหารและไม่เป็นผู้บริหารเปิดเผยรายงานกรณีการนำหุ้นของบริษัทไปวางเป็นหลักประกันการกู้ยืม คาดออกหลักเกณฑ์และบังคับใช้ได้ภายในปี 2568

8. นักลงทุนกำลังจับตาเฮอร์ริเคนลูกใหม่ที่กำลังก่อตัวในอ่าวเม็กซิโก ขณะที่บริษัทน้ำมันเริ่มอพยพคนงานออกจากแท่นขุดในบริเวณดังกล่าว

กลยุทธ์การลงทุน

มอง SET จะเคลื่อนไหว Sideway Up แต่เริ่มมี Upside จำกัดในช่วงสั้น ทั้งนี้คาดเม็ดเงินลงทุนไหลจะเข้าในกลุ่ม Defensive และหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้

1. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไร ซึ่งเทคนิคมีสัญญาณกลับตัว และ Valuation ยังไม่แพง โดยซื้อขายที่ PER และ PBV ต่ำกว่า -1SD แนะนำ AOT CRC AWC BCH BEM

2. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งได้อานิสงส์บวกจากสถานการณ์น้ำท่วม แนะนำ HMPRO GLOBAL CPALL BJC DCC และ TASCO ซึ่งสถิติปี 2553-2566 (เฉพาะปีที่เกิดน้ำท่วมในภาวะ La Nina ยกเว้นปี 2563 ซึ่งเผชิญวิกฤต COVID-19) พบว่าหากซื้อลงทุนช่วงครึ่งหลัง ก.ย. และขายต้น พ.ย. คาดหวังจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 5.0%

3. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรจากอานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง กลุ่มเช่าซื้อ (MTC TIDLOR) อสังหาฯ (AP) ค้าปลีก (CPALL) โรงไฟฟ้า (GULF) REITS (LHHOTEL DIF)

4. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากกองทุนวายุภักษ์รอบใหม่ โดยเลือกหุ้น SET100 ที่มีคุณสมบัติ 1) จ่ายเงินปันผลดี โดยให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% 2) มี ESG Ratings สูงตั้งแต่ระดับ A-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว และ 3) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก KTB BBL BCP ADVANC HMPRO

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 ก.ย. 2567 เวลา : 10:35:21

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 4:13 pm