ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (26 ก.ย. 67) บวก 0.04 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,461.62 จุด


 

ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (26 ก.ย. 67) ดัชนีอยู่ที่ 1,461.62 จุด บวก 0.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2,683.30 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) วิเคราะห์ตลาดหุ้นวันนี้ (26 ก.ย. 67) คาดดัชนียังมี upside จำกัด เนื่องจากแรงส่งของหุ้นขนาดใหญ่ต่าง ๆ ลดน้อยลง หลังขึ้นต่อเนื่องและเข้าภาวะ overbought ขณะที่เม็ดเงินผันมาเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็กซึ่งน้ำหนักต่อตลาดน้อย นอกจากนี้ตลาดดูขาดปัจจัยหนุนใหม่ ด้านกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1470-1475 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1450 และ 1440 จุดตามลำดับ หากต่ำกว่าเริ่มเป็นสัญญาณลบ

ช่วงสั้นมอง SET เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up และเริ่มมี Upside จำกัด แรงหนุนมาจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่ปรับลดลง บวกกับ ความคาดหวังการออกนโยบายผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมทั้งการแข็งค่าของเงินบาทระยะสั้น ส่งผลดีต่อบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยเมื่อเทียบกับภูมิภาค

สะท้อนได้จาก Fund Flow ในเดือน ก.ย. ที่ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยแล้วกว่า 3 หมื่นลบ. อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของฝั่งเอเชีย โดยเฉพาะจีนยังมีแนวโน้มอ่อนแอ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” 

CPALL : กำไร 2H67 คาดจะเติบโต YoY ดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ โดย 3Q67 คาดกำไรจะเติบโต YoY และ QoQ แรงหนุนจากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้นจากธุรกิจ CVS และ CPAXT ส่วน 4Q67 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2567 จากเข้าสู่ High Season อีกทั้ง Valuation น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PER 67F ระดับ 25 เท่า (-2SD)

DELTA : 2H67 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้น HoH และ YoY จากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่ยังคงเติบโตดี อีกทั้งมี Upside จากการพัฒนาและการขายผลิตภัณฑ์ Power Supply ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่พัฒนาโดย DELTA Thailand เอง ซึ่งจะทำให้บริษัทไม่ต้องจ่าย Technical Fee ให้กับทาง DELTA Taiwan ทั้งนี้แนะนำราคาเข้าซื้อวันนี้ไม่เกิน 111 บาท/หุ้น

ประเด็นสำคัญ

- สนค.เผยยอดส่งออก ส.ค. 67 มีมูลค่า 26,182 ล้านดอลลาร์ +7.0% การนำเข้า 25,917 ล้านดอลลาร์ +8.9% เกินดุลการค้า 264.9 ล้านดอลลาร์จากการขยายตัวของการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร และผู้บริโภคในประเทศคู่ค้าหลักจับจ่ายเพิ่มขึ้น

- กบง.มีมติคงราคาก๊าซ LPG เพื่อให้ราคาขายปลีกอยู่ที่ราว 423 บาท ต่อถังขนาด 15 กก. ต่อไป มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. - 31 ธ.ค. 67 เพื่อไม่ให้กระทบกับค่าครองชีพและบริหารจัดการกองทุนน้ำมันฯ

- ธปท.รับบาทผันผวนแข็งค่าขึ้นกว่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค แข็งค่ากว่า 3.8%YTD พร้อมเข้าดูแลหากผันผวนผิดปกติ เพื่อลดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ วานนี้แข็งค่าสุดรอบ 30 เดือนที่ 32.563 บาท/ดอลลาร์ฯ

- รัฐบาลลิเบียตะวันออกและตะวันตกลงนามข้อตกลงที่จะนำไปสู่การแต่งตั้งผู้ว่าการธนาคารกลางลิเบีย ถือเป็นก้าวแรกของการยุติข้อพิพาทที่ว่าใครควรมีอำนาจควบคุมธนาคารกลางและรายได้จากน้ำมัน

- EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลง 4.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาด ส่วนสต็อกเบนซินลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล

- ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 67 มาอยู่ที่ 2.3% จากเดิม 2.6% และมีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 2568 ลงจาก 3.0% มาอยู่ที่ 2.7% โดยคาดภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนยังคงเป็นแรงสนับสนุนหลักต่อการขยายตัว

- สรท.คาดเงินบาทแข็งค่าจะส่งผลกระทบกับคำสั่งซื้อในช่วงปลายปีและต่อไปถึง 1Q68 โดยการแข็งค่าของบาทเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังสูงต่อการส่งออกในระยะถัดจากนี้ โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตร

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

1. มอง SET จะเคลื่อนไหว Sideway Up แต่เริ่มมี Upside จำกัดในช่วงสั้น ทั้งนี้คาดเม็ดเงินลงทุนไหลจะเข้าในกลุ่ม Defensive และหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้

2. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งเทคนิคมีสัญญาณกลับตัว และ Valuation ยังไม่แพง โดยซื้อขายที่ PER และ PBV ต่ำกว่า -1SD แนะนำ AOT CRC AWC BCH BEM
นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งได้อานิสงส์บวกจากสถานการณ์น้ำท่วม แนะนำ HMPRO GLOBAL CPALL BJC DCC และ TASCO ซึ่งสถิติปี 2553-2566 (เฉพาะปีที่เกิดน้ำท่วมในภาวะ La Nina ยกเว้นปี 2563 ซึ่งเผชิญวิกฤต COVID-19) พบว่าหากซื้อลงทุนช่วงครึ่งหลัง ก.ย. และขายต้น พ.ย. คาดหวังจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 5.0%

3. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรจากอานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง กลุ่มเช่าซื้อ (MTC TIDLOR) อสังหาฯ (AP) ค้าปลีก (CPALL) โรงไฟฟ้า (GULF) REITS (LHHOTEL DIF)

4. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากกองทุนวายุภักษ์รอบใหม่ โดยเลือกหุ้น SET100 ที่มีคุณสมบัติ 1) จ่ายเงินปันผลดี โดยให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% 2) มี ESG Ratings สูงตั้งแต่ระดับ A-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว และ 3) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก KTB BBL BCP ADVANC HMPRO

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 ก.ย. 2567 เวลา : 11:20:56

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:59 am