ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (3 ต.ค.67) ดัชนีอยู่ที่ 1,443.93 จุด ลบ 7.47 จุด หรือลดลง 0.15% มูลค่าการซื้อขาย 4,876.91 ล้านบาท
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุ SET วันนี้ ยังได้รับ sentiment ลบ จากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่า เป็นลบต่อทิศทาง fund flow กดดันดัชนี อย่างไรก็ตาม คาดเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ช่วยประคองดัชนี ทำให้คาด SET จะเคลื่อนไหวภายในกรอบระหว่าง 1440-1460 จุด
ช่วงสั้นมอง SET จะยังแกว่งตัว Sideway Up แต่อาจเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้นเป็นระยะๆ จากปัจจัยภายนอก และจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า ทั้งนี้มองว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับแรงหนุนจากทิศทางดอกเบี้ยที่จะกลับเข้าสู่ขาลง (คลัง และธปท. จะมีการพูดคุยกันในสัปดาห์นี้) และนโยบายผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมทั้งการแข็งค่าของเงินบาทคาดจะยังหนุนการไหลเข้าของ Fund Flow โดยประเมินว่าหาก SET จะปรับขึ้นได้แรง ต้องเกิดจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร อสังหาฯ อิเล็กทรอนิกส์ และท่องเที่ยว ขณะที่หุ้นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนดีก่อนหน้านี้คาดจะยังให้ผลตอบแทนดีต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีดัชนี PMI ภาคการผลิต และบริการของจีน และสหรัฐคาดจะยังชะลอตัวลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ Selective Buy
3 ธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1.หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากกองทุนวายุภักษ์รอบใหม่ โดยเลือกหุ้น SET100 ที่มีคุณสมบัติ 1) จ่ายเงินปันผลดี โดยให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% 2) มี ESG Ratings สูงตั้งแต่ระดับ A-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว และ 3) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก KTB BBL BCP ADVANC HMPRO
2.นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งคาดได้อานิสงส์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง แนะนำ กลุ่มเช่าซื้อ (MTC TIDLOR) กลุ่มอสังหาฯ (AP SIRI) กลุ่มค้าปลีก (CPALL) กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF) กลุ่ม REITs (LHHOTEL DIF)
3.นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งได้อานิสงส์บวกจากสถานการณ์น้ำท่วม แนะนำ HMPRO GLOBAL CPALL BJC DCC และ TASCO ซึ่งจากสถิติปีที่เกิด La Nina หากลงทุนช่วงครึ่งหลัง ก.ย. และขายต้น พ.ย. คาดหวังจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 5.0%
ขณะที่การแข็งค่าของเงินบาทอย่างรุนแรงใน 3Q67 มองจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อหุ้นที่มีรายได้จากการส่งออก แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนช่วงสั้น ได้แก่ TU GFPT CBG KCE ส่วนนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรหุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทแข็งค่า แนะนำ AAV GULF GPSC BCP
หุ้น Top Picks
CPAXT : เป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์รายหลักของกลุ่มพาณิชย์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ขณะที่ 3Q67 คาดกำไรจะเติบโต YoY จากยอดขาย และมาร์จิ้นที่ดีขึ้น จากนั้นจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงที่สุดของปีนี้ใน 4Q67 (เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ) ทั้งนี้ภายหลังควบรวมกิจการ synergy จะเริ่มมีให้เห็นใน 4Q67 และชัดเจนมากขึ้นในช่วงกลางปี 2568
DELTA : 2H67 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้น HoH และ YoY จากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่ยังคงเติบโตดี อีกทั้งยังมี upside จากการพัฒนาและการขายผลิตภัณฑ์ Power Supply ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่พัฒนาโดย DELTA Thailand เอง ซึ่งจะทำให้บริษัทไม่ต้องจ่ายค่า Technical Fee ให้กับทาง DELTA Taiwan ทั้งนี้แนะนำราคาเข้าซื้อวันนี้ไม่เกิน 110 บาท
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม
1. วานนี้ราคาหุ้น Tesla ปรับลด 3.49% หลังเผยตัวเลขการส่งมอบรถยนต์ 3Q67 ที่ 462,890 คัน ต่ำกว่าตลาดคาด ส่วนราคาหุ้น Nike ปรับลง 6.8% หลังประกาศยกเลิกคาดการณ์รายได้ตลอดปีงบการเงิน
2. OPEC+ มีมติคงการลดกำลังผลิตรวม 5.86 ล้านบาร์เรล/วัน มาจากสมาชิก OPEC+ 3.66 ล้านบาร์เรล/วัน (สิ้นสุดช่วงสิ้นปี 2568) และจากมาตรการลดกำลังผลิตโดยสมัครใจจาก 8 ประเทศ 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน (ทยอยกลับมาเพิ่มตั้งแต่เดือนธ.ค.2567)
3. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ กำหนดภาษีในอัตราทั่วไปที่ 9.13% เพื่อตอบโต้การทุ่มตลาดแผงโซลาร์ของจีนผ่านบริษัทในอาเซียน เช่น กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และไทย และพิจารณาเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 90 วัน
4. กกร. ประเมินช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วกดดันการส่งออกและเป็นปัจจัยลบต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะสินค้าเกษตร และอาหาร ซึ่งหากบาทแข็งค่าต่อในช่วงที่เหลือของปีอาจกระทบรายได้ส่งออก 1.8-2.5 แสนล้านบาท
5. กกร. เสนอ ธปท. ลดดอกเบี้ย 25bps ภายในปีนี้ และอีก 50bps ในปีหน้า เพื่อลดผลกระทบจากภาวะบาทแข็งค่ารุนแรง และทบทวนกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อร่วมกับกระทรวงการคลัง
6. กกพ. ประกาศกำหนดการรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟสสอง ทั้งหมด 2,180MW ในวันที่ 8 ต.ค.67 นี้ โดยผู้ที่เคยยื่น และผ่านเกณฑ์แต่ไม่ถูกรับซื้อในการประมูลรอบก่อน 198 รายจะได้รับสิทธิการพิจารณาก่อน
7. กระทรวงพาณิชย์เผยเทศกาลกินเจคึกคัก พบคนออกมาจับจ่ายใช้สอย ชี้ได้อานิสงส์เติมเงินหมื่นให้กลุ่มเปราะบาง ด้านธพ. เผยยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 8M67 อยู่ที่ 156.37 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 1%YoY
ข่าวเด่น