ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงท่ามกลางแรงเทขายทำกำไรมาอยู่ที่ระดับ 2,605 เหรียญ ก่อนจะรีบาวด์กลับมาปิดที่ระดับ 2,622 เหรียญ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสงครามในตะวันออกกลางว่าอิสราเอลจะตอบโต้อิหร่านอย่างไร ขณะที่อิหร่านสั่งปิดน่านฟ้าเพื่อเตรียมรับการโจมตีทางอากาศจากอิสราเอล สำหรับวันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ขณะที่พรุ่งนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐฯ ในวันศุกร์ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินนโยบายดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.016% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 3.96% โดยจะเห็นได้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และ 2 ปี กลับมาสู่ภาวะปกติ โดยการรีบาวด์ของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี น่าจะมาจากสภาวะสงครามในตะวันออกกลางและจากการที่ตลาดมีความมั่นใจมากขึ้นของการบริหารดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งมองว่าเฟดน่าจะค่อยๆปรับลดดอกเบี้ยลง และจะลดดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ย. ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 102.46 จุด และเคลื่อนตัวระหว่าง 102.29-102.64 จุด และปิดที่ระดับ 102.47 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 102.60 จุด ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วจากระดับ 32.14 บาทต่อดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 33.45 บาทต่อดอลลาร์ในเช้านี้ ทำให้ราคาทองไทยปรับตัวสูงขึ้นกลับมาทดสอบใกล้ระดับ 42,000 บาทต่อบาททองคำ ก่อนจะร่วงกลับลงมาที่ระดับ 41,450 บาทต่อบาทองคำ จากการที่เมื่อวานนี้ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลงมาประมาณ 25 เหรียญ และค่าเงินบาทกลับแข็งค่าลงมา
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำตลาดโลกอยู่ในช่วงของการปรับฐานทำกำไร หลังจากที่ไม่สามารถขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมได้อย่างมั่นคงที่ระดับ 2,685 เหรียญ ก่อนจะมีแรงเทขายทำกำไรกลับลงมาที่ระดับ 2,600 เหรียญ ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci Retracement 38.2% โดยคาดว่าแนวรับสำคัญของราคาทองคำยังคงอยู่แถวบริเวณ 2,600 เหรียญ โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,600 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,645 เหรียญ ขณะที่ภาพรวมราคาทองไทยปรับตัวลดลงเล็กน้อยประมาณ 500 บาทต่อบาททองคำ จากการปรับตัวลดลงของราคาทองคำตลาดโลก แม้ว่าค่าเงินบาทยังอยู่ทิศทางที่อ่อนค่าโดยเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.37 บาทต่อดอลลาร์ จากระดับเปิดเมื่อวานที่ระดับ 33.46 บาทต่อดอลลาร์ โดยในเทคนิคคาดว่าค่าเงินบาทมีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ได้
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,630 เหรียญ และแนวต้าน 2,675 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,625 เหรียญ และแนวต้าน 2,670 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 41,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 41,500 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series V24 จะมีแนวรับที่ระดับ 41,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 42,200 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเน้นเทรดระยะสั้น เก็งกำไรในกรอบลงซื้อขึ้นขาย รอดูความชัดเจนของทิศทาง ระวังความผันผวนของราคา แต่ภาพระยะยาวยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ แต่ไม่แนะนำให้ถือในระยะยาว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น