ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงอีกประมาณ 15 เหรียญ ท่ามกลางแรงเทขายทำกำไรและการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์กลับมาทรงตัวแถวบริเวณ 102.87 จุด ในเช้านี้ โดยมีแนวต้าน Fibonacci Retracement 50% อยู่ที่ระดับ 103.12 จุด สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Core CPI m/m, CPI m/m และ CPI y/y คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม ขณะที่ Unemployment Claims คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ทั้งนี้ หากตัวเลข CPI ออกมาตามที่คาดการณ์ อาจส่งผลให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยได้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลบวกต่อราคาทองคำ ด้านค่าเงินบาทยังคงอยู่ในทิศทางอ่อนค่า ซึ่งส่งผลให้ราคาทองไทยปรับตัวลดลงตามราคาทองคำตลาดโลกได้ไม่มากนัก ซึ่งราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลงประมาณ 2% ขณะที่ราคาทองไทยปรับลดลงประมาณ 1%
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะอยู่ในกรอบแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ระดับ 2,600 เหรียญ ซึ่งหากหลุดระดับดังกล่าวจะมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 2,580 เหรียญ และมีแนวต้านที่ระดับ 2,640 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,610 เหรียญ และแนวต้าน 2,670 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,605 เหรียญ และแนวต้าน 2,665 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 41,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 41,600 บาท/บาททองคำ ภาพรวมราคาทองไทยยังอยู่ในช่วงของการปรับฐานเช่นเดียวกับราคาทองคำตลาดโลก
Gold Futures Series V24 จะมีแนวรับที่ระดับ 41,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 41,850 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเน้นเทรดระยะสั้น เก็งกำไรในกรอบลงซื้อขึ้นขาย รอดูความชัดเจนของทิศทาง ระวังความผันผวนของราคา แต่ภาพระยะยาวยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ แต่ไม่แนะนำให้ถือในระยะยาว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น