ทิศทางราคาทองคำ
ภาพรวมราคาทองคำปรับตัวลดลง และมีการแกว่งตัวในระหว่างการนับคะแนนเลือกตั้งสหรัฐฯเมื่อวานนี้ โดยราคาทองไทยปรับเปลี่ยนราคาด้วยกันทั้งสิ้น 33 ครั้ง โดยในช่วงต้นราคาทองไทยปรับตัวสูงขึ้นไปที่ระดับ 44,100 บาทต่อบาททองคำ จากการอ่อนค่าอย่างรวดเร็วของค่าเงินบาท โดยเมื่อวานนี้ค่าเงินบาทเปิดที่ระดับ 33.58 บาทต่อดอลลาร์ และเคลื่อนตัวระหว่าง 33.54-34.39 บาทต่อดอลลาร์ และปิดที่ระดับ 34.39 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้ทะลุระดับ 34.35 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ภาพรวมของราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 2,743 เหรียญ ก่อนจะร่วงหลุดระดับ 2,700 เหรียญในช่วง 13.00 น.ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาได้ที่ระดับ 2,733 เหรียญ และร่วงหลุดระดับ 2,700 เหรียญอีกรอบในช่วง 18.00 น. เรียกได้ว่าราคาทองคำมีการแกว่งตัวอย่างมาก ขณะที่ทางด้านการเมืองของสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสมัยที่สอง คนที่ 47 ซึ่งมีนโยบายหลักที่น่าจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ ดังนี้ 1.การลดภาษีบริษัทในสหรัฐฯ จาก 21% เหลือ 15% ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นดาวโจนส์ และทำให้นักลงทุนหันไปเข้าสู่ตลาดหุ้นมากขึ้น 2.การตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าที่สหรัฐฯเสียเปรียบ โดยพุ่งเป้าไปที่สินค้าจีน 60% ขึ้นไป ซึ่งประเด็นดังกล่าวส่งผลกระทบต่อตลาดโลก และมีโอกาสทำให้ราคาสินค้าในประเทศปรับตัวสูงขึ้น และเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นด้วย ทำให้เฟดน่าจะปรับลดดอกเบี้ยได้น้อยลง หรือในทางกลับกันอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยแทน หากอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 7-8% ซึ่งตรงนี้ถือเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ 3.มีโอกาสที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯจะปรับตัวสูงขึ้นจากนโยบายขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น เป็นเหตุให้เฟดมีโอกาสที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง และดำเนินนโยบายไปตามเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ 4.นโยบายยุติสงครามยูเครน ซึ่งหากทำได้จริง จะส่งผลให้ราคาทองคำลดความสำคัญในการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยลง ดังนั้นจึงวิเคราะห์ได้ว่าภาพรวมของการขึ้นเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์น่าจะเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำตลาดโลกอย่างมากในแง่ทิศทางขาลง ทำให้เมื่อคืนนี้ราคาทองคำหลุดระดับจาก 2,750 เหรียญ ลงมาอยู่ที่ 2,652 เหรียญ หรือลงมาประมาณ 98 เหรียญ ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 3.44 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 883.46 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในเชิงเทคนิค Fibonacci Retracement 61.8% อยู่ที่ระดับ 2,676 เหรียญ ซึ่งขณะนี้ราคาทองคำหลุดลงมาอยู่ที่ระดับ 2,655 เหรียญ ซึ่งภาพรวมหากราคาทองคำหลุด Fibonacci Retracement 61.8% จะมีโอกาสที่ราคาทองคำจะพักตัวและอาจจะเปลี่ยนทิศทางจากขาขึ้นเป็นขาลงได้ หากภายใน 1 สัปดาห์ราคาทองคำไม่สามารถดีดกลับมาเหนือ 2,680 เหรียญได้ สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,620 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,700 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,645 เหรียญ และแนวต้าน 2,725 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,635 เหรียญ และแนวต้าน 2,715 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 42,900 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 43,500 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Z24 จะมีแนวรับที่ระดับ 43,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 44,000 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ระมัดระวังความผันผวน แนะนำนักลงทุนเทรดระยะสั้น ตามแนวโน้ม ของชุดการปรับฐานขาลง จนกว่าราคาจะกลับขึ้นมายืนเหนือ 2,700 เหรียญได้อีกครั้ง หรือเกิดสัญญาณกลับตัวบริเวณแนวรับแล้วค่อยทยอยซื้อสะสม
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
หาจังหวะปิดสถานะ Stop Loss หากราคากลับขึ้นไปไม่ผ่านบริเวณแนวต้านมีโอกาสทีจะขึ้นเพื่อปรับฐานลงต่อ แต่หากจะถัวเฉลี่ยเพิ่มให้รอราคาพักฐานยืนได้บริเวณแนวรับ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น