ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (13 พ.ย.67) เวลา 10.00 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,450.60 จุด บวก 5.53 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2,342.94 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปัจจัยแวดล้อมยังเป็นลบกดดัชนี SET โดยค่าดอลลาร์แข็งค่ากดดันเงินบาทอ่อนค่ายังเป็นลบต่อทิศทางเงินลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นสร้างบรรยากาศลบต่อตลาดให้ปรับตัวลงได้อยู่ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,440 จุด และ 1,430 จุด ตามลำดับ ด้านการฟื้นตัวยังถูกจำกัด โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 14,50-1,460 จุด ประเด็นสำคัญติดตามรายงานเงินเฟ้อสหรัฐ เดือน ต.ค. ในคืนนี้
ทั้งนี้ แม้ช่วงสั้นมองดัชนี SET จะแกว่งตัว Sideways Up โดยปัจจัยลบที่มีต่อเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศมีค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ดีคาดเงินเฟ้อสหรัฐจะยังชะลอตัวลง ทำให้แนวโน้มกาปรับลดดอกเบี้ยยังไม่เปลี่ยนแปลง รวมไปถึงความชัดเจนในการดำเนินนโยบายของทรัมป์ น่าจะยังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป
“ผลกระทบจากความคาดหวังของนโยบบายรัฐบาลใหม่ของสหรัฐต่อเศรษฐกิจมหาภาคจะทำให้ตลาดมีความผันผวนสูงและอาจจะส่งผลกับทิศทาง Fund Flow โดยเฉพาะนโยบายระหว่างประเทศที่มีต่อจีน ส่วนปัจจัยในประเทศคาดจะถูกขับเคลื่อนด้วยการเข้าสู่ช่วงโค้งสัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบการเงินช่วงไตรมาส 3/67 กลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”
หุ้นเด่นวันนี้แนะนำ
CPF ไตรมาส 3/67 คาดกำไรปกติที่ 6.3 พันล้านบาท เติบโตดีที่สุดในกลุ่มอาหาร หนุนจากราคาสัตว์บกต่างประเทศและในประเทศที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางต้นทุนอาหารสัตว์ระดับต่ำ นอกจากนี้ยังมี Upside มากที่สุดในกลุ่มจากวงจรการปรับลดดอกเบี้ยที่กำลังจะมาถึง และจะมี Downside จากการปรับขึ้นค่าแรงน้อยกว่าบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน
AU ไตรมาส 3/67 กำไรทำนิวไฮและดีกว่าตลาดคาด ขณะที่ไตรมาส 4/67 คาดยังเติบโตดี YOY หนุนให้ปี 2567 คาดมีกำไรโตเด่น 65% YOY และยังโตต่อ 18% YOY ในปี 2568 แรงหนุนมาหลักจากรับรู้ยอดขายจากช่องทางใหม่ ๆ เช่น ยอดขายจากการบินไทยช่วงวันที่ 1 ต.ค. 2567-31 พ.ค. 2568 และยอดขายในร้าน 7-11 ซึ่งปีหน้ามีแผนวางสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งนี้วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไรราคาไม่เกิน 11.20 บาท
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม
1. นายกฯ นัดถกบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งแรก 19 พ.ย.นี้ โดยเตรียมถกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งต่อยอดมาตราการเดิมและมาตราการใหม่ ที่จะลงลึกรายละเอียดมากยิ่งขึ้นเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
2. ครม.เห็นชอบ 2 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แบ่งเป็นมาตรการสินเชื่อ 1.5 หมื่นล้านบาท ช่วยคนรายได้น้อยแก้หนี้นอกระบบ และมาตรการสินเชื่อ “ซื้อ แต่ง ซ่อม สร้างบ้าน” กระตุ้นอสังหาริมทรัพย์อีก 5.5 หมื่นล้านบาท
3. สมาคมโรงแรมไทยเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่พักแรมเดือน ต.ค. 2567 พบธุรกิจโรงแรมปรับดีขึ้นสะท้อนจากอัตราเข้าพักอยู่ที่ 58% เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ย. 2567 และเดือน ก.ย. 2566 ตามฤดูกาลท่องเที่ยว โดยไตรมาส 4/67 คาดดัชนีความเชื่อมั่นดีขึ้นรับอากาศเย็น-ไฮซีซั่นปีใหม่
4. โอเปกปรับลคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 2567 และปี 25668 เหลือวันละ 1.82 ล้านบาร์เรล และ 1.54 ล้านบาร์เรล ลดลงจาก 1.93 ล้านบาร์เรล และ 1.64 ล้านบาร์เรล ที่มีการคาดการณ์ในเดือน ต.ค. ตามลำดับ ซึ่งเป็นการปรับลดอุปสงค์เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือน พ.ย.
5. จีนเผยยอดปล่อยกู้ใหม่เดือน ต.ค. ชะลอตัวลงเหลือเพียง 5 แสนล้านหยวน ต่ำกว่าที่ตลาดคาด เทียบกับเดือน ก.ย. ที่ 1.59 ล้านล้านหยวน กดดันจากความต้องการระดมทุนภาคเอกชนที่ต่ำและความสามารถทำกำไรที่ลดลดลง
6. รมช.คลัง โต้ความเห็นจากสื่อต่างประเทศที่ระบุว่าบาทอ่อนค่ามากที่สุดในเอเชีย เนื่องจากความกังวลต่อความอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่มองว่าปัจจัยส่วนใหญ่มาจากภายนอกเป็นหลัก เช่น ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
7. นายกฯ ญี่ปุ่นเตรียมงบราว 10 ล้านล้านเยน เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และ AI ในระยะ 10 ปีข้างหน้า เพื่อเร่งการเติบโตของการลงทุนทั้งในภาครัฐและเอกชน
ข่าวเด่น