ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ตลาดหุ้นไทยเปิด (15 พ.ย.67) บวก 6.77 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,456.89 จุด


 

ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (15 พ.ย.67) เวลา 9.59 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,456.89 จุด บวก 6.77 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2,148.25 ล้านบาท

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET วันนี้ ดัชนีช่วงแรกอาจได้ Sentiment ลบบ้าง หลังถ้อยแถลงประธานเฟดระมัดระวังและระบุไม่จำเป็นต้องรีบในการลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามดัชนีเริ่มยืนที่แนวรับบริเวณ 1440 จุดได้ สร้างสัญญาณบวกทางเทคนิค และคาดมีปัจจัยหนุนในประเทศจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยติดตามในวันที่ 19 พ.ย. ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1460-1465 จุด หากขึ้นทะลุผ่านได้เห็นการฟื้นตัวชัดขึ้น

แม้ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideways Up โดยปัจจัยลบที่มีต่อเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศมีค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ดีคาดเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะยังชะลอตัวลง ทำให้แนวโน้มกาปรับลดดอกเบี้ยยังไม่เปลี่ยนแปลง รวมไปถึงความชัดเจนในการดำเนินนโยบายของทรัมป์ซึ่งเป็นปธน. สหรัฐฯ หลังการเลือกตั้งน่าจะยังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป ทั้งนี้ผลกระทบจากความคาดหวังของนโยบบายรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจมหาภาคจะทำให้ตลาดมีความผันผวนสูงและอาจจะส่งผลกับทิศทาง Fund Flow โดยเฉพาะนโยบายระหว่างประเทศที่มีต่อจีน ส่วนปัจจัยในประเทศคาดจะถูกขับเคลื่อนด้วยการเข้าสู่ช่วงโค้งสัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบ 3Q67 กลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideways Up หลังปัจจัยลบในและต่างประเทศค่อนข้างจำกัด โดยในประเทศคาดจะถูกขับเคลื่อนด้วยการเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศงบ 3Q67 กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้ 

1. หุ้น Earnings Play สำหรับเก็งกำไรระยะสั้นในโค้งสุดท้ายของการประกาศงบ 3Q67 ซึ่งคาดกำไรจะเติบโตดี YoY และเราแนะนำ Outperform เลือก AWC BDMS CPALL BEM AOT  

2. หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกหลังทรัมป์คว้าชัยชนะเป็นปธน. สหรัฐฯ – AMATA WHA (นโยบายกำแพงภาษี-ย้ายฐานการผลิต), CPF AOT MINT (นโยบายลดภาษี-เพิ่มกำลังซื้อ และได้ประโยชน์จากดอลลาร์แข็งค่า)

3. หุ้นที่ปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์เป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนลดหย่อนภาษี แนะนำหุ้น SET100 ที่มี Div. Yield ขั้นต่ำ 3.5%, ESG Rating และ CG สูง, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และเติบโตในปี 2025 เลือก BBL ADVANC HMPRO BCP ทั้งนี้แนะนำรอซื้อเมื่ออ่อนตัว หลังราคาหุ้นปรับขึ้นมาแรงในช่วงที่ผ่านมา

4. สำหรับนักลงทุนที่ยังกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลางและต้องการหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

หุ้น TOP PICKS วันนี้ 

CPF: 3Q67 เผยกำไรสุทธิสูงกว่าคาดจากรายการพิเศษ ส่วนกำไรปกติออกมาตามคาดที่ 6.6 พันลบ. แรงหนุนจากราคาเนื้อสัตว์แข็งแกร่ง ต้นทุนอาหารสัตว์ต่ำ และคุมค่าใช้จ่ายได้ดี โดยปี 2567 คาดพลิกมีกำไรปกติ 1.49 หมื่นลบ. ซึ่งยังมี Upside มากที่สุดในกลุ่มจากวงจรการปรับลดดอกเบี้ยที่กำลังจะมาถึง ทั้งนี้วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไรราคาไม่เกิน 24.70 บาท

CPAXT: มองเป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์หลักของกลุ่มพาณิชย์จากการเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล ขณะที่ท 4Q67 คาดจะเป็นจุดสูงสุดของกำไรปีนี้ โดยจะเติบโต QoQ ตามผลฤดูกาล และ YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น ทั้งนี้ภายหลังควบรวมกิจการ Synergy จะเริ่มมีให้เห็นใน 4Q67 และชัดเจนมากขึ้นในช่วงกลางปี 2568

ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม

1. Google คาดเศรษฐกิจดิจิทัลไทยมีมูลค่า 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2567 โดยใหญ่และเติบโตเร็วเป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รองจากฟิลิปปินส์) รับอานิสงส์การเติบโตอีคอมเมิร์ซ ท่องเที่ยวออนไลน์ ยกไทยผู้นำลงทุน "AI-Data Center" ระดับภูมิภาค  
 
2. ม. หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ต.ค. 2567 ที่ 56.0 ปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน แต่ยังต่ำกว่าระดับ 100 แสดงว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังกังวลภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวไม่ดีขึ้นมากนัก ยังต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายทรัมป์

3. สศค. ประเมิน GDP 4Q67 จะเติบโตอยู่ที่ 4.3-4.4% รับแรงหนุนแจกเงินหมื่น ด้าน รมว. คลังเผยการแจกเงินหมื่นเฟส 2 จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปที่ไม่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง แต่มีปัญหาสภาพคล่อง  

4. เมื่อคืนนี้ประธานเฟดแถลงส่งสัญญาณไม่รีบร้อนที่จะลดดอกเบี้ย หลังเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและภาวะเงินเฟ้อยังไม่เข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 2% แม้ลดลงมามากแล้วในช่วงที่ผ่านมา

5. เกาหลีใต้เผยยอดส่งออกผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี ต.ค. เติบโตติดต่อกัน 12 เดือน เช่น สินค้า ICT, เซมิคอนดักเตอร์ และคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง หนุนจากอุปสงค์ชิปในงานปัญญาประดิษฐ์รู้สร้าง (Gen AI)

6. IEA ออกรายงานเตือนเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด โดยระบุว่าอุปทานน้ำมันดิบทั่วโลกจะมากกว่าอุปสงค์ราว 1 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2568 จากสหรัฐฯ และประเทศนอกกลุ่มโอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิต

7. CNN รายงานว่าขณะนี้พรรครีพับบลิกันสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาวและสภาคองเกรสแล้ว ซึ่งจะทำให้การผลักดันนโยบายต่าง ๆ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 พ.ย. 2567 เวลา : 10:58:35

17-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 17, 2024, 12:41 pm