ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (4 ธ.ค.67) พุ่งขึ้นทำนิวไฮทุกตลาด โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,014.04 จุด เพิ่มขึ้น 308.51 จุด หรือ +0.69%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,086.49 จุด เพิ่มขึ้น 36.61 จุด หรือ +0.61% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,735.12 จุด เพิ่มขึ้น 254.21 จุด หรือ +1.30% โดยตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับผลประกอบการของบริษัทเซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) และการแสดงความเห็นเชิงบวกของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
หุ้น 5 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1.77% และหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยพุ่งขึ้น 1.20% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงมากที่สุด โดยร่วงลง 2.47%
พาวเวลกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนา New York Times DealBook Summit ซึ่งจัดขึ้นที่นครนิวยอร์กว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในขณะนี้มีความแข็งแกร่งมากกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับส่งสัญญาณถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในอนาคต
พาวเวลกล่าวว่า “เศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในภาวะที่ดีมาก และความเสี่ยงด้านลบที่มีต่อตลาดแรงงานก็ดูเหมือนว่าจะลดน้อยลง ขณะที่เงินเฟ้อก็สูงขึ้นเพียงเล็กน้อย ดังนั้นข่าวดีก็คือภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ทำให้เฟดสามารถใช้ความระมัดระวังไม่มากนักในการปรับอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับที่เป็นกลาง” โดยอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลางหมายถึงอัตราดอกเบี้ยในระดับที่ไม่กระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและไม่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง
ปีเตอร์ คาร์ดิลโล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท Spartan Capital Securities กล่าวว่า ตลาดได้รับแรงหนุนเนื่องจากการแสดงความเห็นของพาวเวลสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองบวกที่มีต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ พาวเวลยังมองว่าเงินเฟ้อมีความคืบหน้าในการชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของเฟด
เฟดเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book โดยระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ มีการขยายตัวเล็กน้อยในเกือบทุกภูมิภาคนับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. ซึ่งรายงานดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนตลาดเช่นกัน
ทั้งนี้ หลังการกล่าวสุนทรพจน์ของพาวเวลและการเปิดเผยรายงาน Beige Book นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเป็นครั้งที่ 3 ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้
หุ้นเซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 11% หลังบริษัทเปิดเผยรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 3 และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ในปีงบการเงิน 2567
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 146,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 163,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 184,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการปรับตัวลงสู่ระดับ 52.1 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 56.0 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 55.5
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตาการเปิดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะพุ่งขึ้น 202,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 12,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะดีดตัวสู่ระดับ 4.2% ในเดือนพ.ย. จากระดับ 4.1% ในเดือนต.ค.
ข่าวเด่น