ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้กว่า 1% ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาพรวมการลงทุนของโลกที่พยายามเปลี่ยนตามแนวนโยบายของทรัมป์ ขณะที่ราคาทองคำดีดกลับขึ้นมาทดสอบ 2,700 เหรียญในเช้านี้เป็นครั้งแรก หลังจากร่วงหลุดลงไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เรียกได้ว่าเป็นการสิ้นสุดช่วงการปรับฐานของราคาทองคำ หลังจากที่ราคาทองคำพยายามขึ้นมาทดสอบแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่สามารถผ่านทะลุไปได้ อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นครั้งนี้ของราคาทองคำดูจะแข็งแกร่งจากแรงซื้อต่อเนื่องของตลาด รวมถึงธนาคารกลางจีนได้เริ่มกลับมาซื้อทองคำเข้าคลังสำรองอีกครั้งในเดือนพ.ย. หลังจากหยุดพักไปเป็นเวลา 6 เดือน โดยจีนประกาศจะใช้นโยบายการเงิน "ผ่อนคลายปานกลาง" และนโยบายการคลัง "เชิงรุกมากขึ้น" โดยคาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ยและเพิ่มการขาดดุลงบประมาณเกิน 3% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำเช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่าราคาทองคำน่าจะมีโอกาสไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 2,790 เหรียญ ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 870.79 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Core CPI m/m คาดการณ์ว่าจะออกมาใกล้เคียงเดิม ขณะที่ CPI m/m และ CPI y/y คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ท่ามกลางนักลงทุนส่วนใหญ่ให้น้ำหนัก 86% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค.และคาดการณ์ว่าจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีหน้า ภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะดัชนี S&P 500 จะปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2568 โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ระดับ 6,400 - 7,000 จุด โดย Wells Fargo มองว่านโยบายของรัฐบาลทรัมป์จะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ ขณะที่ผู้ถือหุ้นของบริษัท Microsoft ได้ลงมติอย่างเป็นทางการไม่เห็นด้วยกับ ข้อเสนอ ที่จะรวม Bitcoin เข้ากับการถือครองหุ้นของบริษัท ส่งผลให้ราคา Bitcoin ร่วงดิ่งแตะ 94,000 เหรียญอย่างรุนแรง หลังจากที่ราคา Bitcoin ทะลุ 100,000 เหรียญ ขึ้นมาประมาณ 5 วัน ด้านดัชนีดอลลาร์ยังคงอยู่ในแนวโน้มแข็งค่า โดยเมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 106.18 จุด และเคลื่อนตัวระหว่าง 106.04-106.64 จุด และปิดที่ระดับ 106.38 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 106.33 จุด ขณะที่ค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าเช่นเดียวกัน โดยเมื่อวานนี้อยู่ที่ระดับ 33.76 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.73 บาทต่อดอลลาร์
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในทางเทคนิคราคาทองคำเข้าสู่ทิศทางแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น ซึ่งน่าจะสิ้นสุดการปรับฐานแล้ว และมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นต่อในระยะยาว โดยราคาทองคำเป้าหมายน่าจะอยู่ที่ระดับ 2,790 เหรียญในสิ้นปีนี้ ซึ่งการที่ราคาทองคำสามารถดีดตัวขึ้นมาประมาณ 50-60 เหรียญ ภายใน 2 วัน แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดที่มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ยังคงอยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกัน สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,685 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,725 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,695 เหรียญ และแนวต้าน 2,735 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,710 เหรียญ และแนวต้าน 2,750 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 42,700 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 43,300 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Z24 จะมีแนวรับที่ระดับ 43,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 43,500 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ปิดสถานะ Long เพื่อทำกำไรบางส่วน ยังเน้นเทรดซื้อขายตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้น และปิดทำกำไรตามรอบ เน้นเทรดระยะสั้นลง ระวังเเรงเทขายทำกำไร
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น