ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน(11 ธ.ค.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,148.56 จุด ลดลง 99.27 จุด หรือ -0.22% โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ สวนทางกับดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,084.19 จุด เพิ่มขึ้น 49.28 จุด หรือ +0.82% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,034.89 จุด เพิ่มขึ้น 347.65 จุด หรือ +1.77% หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ ทำให้นักลงทุนคาดหวังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
ดัชนีดาวโจนส์ได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ ซึ่งรวมถึงหุ้นซิกนา หุ้นซีวีเอส เฮลธ์ และหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป หลังสมาชิกสภาคองเกรสจากพรรเดโมแครตและรีพับลิกันได้เสนอร่างกฎหมายที่จะบังคับให้บริษัทที่เป็นเจ้าของธุรกิจประกันสุขภาพหรือธุรกิจบริหารจัดการผลประโยชน์ทางเภสัชกรรม ต้องแยกธุรกิจร้านขายยาออกไปภายในระยะเวลา 3 ปี
ด้าน กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผย ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนต.ค.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นกัน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนต.ค.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 96% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 86% ก่อนการเปิดเผยดัชนี CPI
หุ้น 5 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ส่วนหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลงหนักสุด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูงทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) พุ่งขึ้น 3.1% หุ้นอัลฟาเบท (Alphabet) พุ่งขึ้น 5.4% หุ้นอะเมซอน (Amazon) พุ่งขึ้น 2.3%
หุ้นเทสลา (Tesla) พุ่งขึ้นเกือบ 6% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยหุ้นเทสลายังคงได้ปัจจัยบวกจากมุมมองที่ว่าธุรกิจของเทสลาจะได้ประโยชน์จากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
หุ้นบรอดคอม (Broadcom) พุ่งขึ้น 6.6% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทแอปเปิ้ล (Apple) กำลังร่วมมือกับบรอดคอมในการพัฒนาชิปเซิร์ฟเวอร์ที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษสำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI)
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต จะปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนต.ค. และคาดว่า ดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่ 3.1% ในเดือนต.ค.
ข่าวเด่น