ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำในวันศุกร์ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 30 เหรียญ ท่ามกลางแรงซื้อเข้าอย่างหนักจากกองทุนทองคำ SPDR ในวันศุกร์ซื้อเข้า 16.66 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 877.4 ตัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนพยายามที่จะปรับพอร์ตกองทุนทองคำ SPDR ให้สมดุลในช่วงก่อนปีใหม่ ซึ่งบ่งชี้ได้ว่าราคาทองคำยังถือเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนในปีหน้า ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อวันศุกร์เปิดที่ระดับ 108.48 จุด และเคลื่อนตัวระหว่าง 107.59-108.54 จุด และปิดที่ระดับ 107.82 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 107.71 จุด เรียกได้ว่าดัชนีดอลลาร์ยังแกว่งตัวในแนวโน้มทิศทางแข็งค่า ขณะที่ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าเล็กน้อย หลังจากเมื่อวันศุกร์อ่อนค่าขึ้นไปถึงระดับ 34.65 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.25 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.53% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ระดับ 4.317% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ 0.21% แสดงให้เห็นว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว รวมถึงภาพรวมทางด้านเศรษฐกิจของสหรัฐไม่ได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแต่อย่างใด ซึ่งจะเห็นได้ว่าสหรัฐได้เปรียบกว่าทุกประเทศในโลกนี้ แม้ Balance sheet จะติดลบ แต่เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง รวมถึงการเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป (EU) หากบรรดาชาติสมาชิก EU ไม่เพิ่มการซื้อน้ำมันและก๊าซจากสหรัฐฯ
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำดูจะมี Technical Rebound ขึ้นมาหลังจากที่ร่วงลงไปทดสอบแนวรับระยะกลางแถวบริเวณ 2,600 เหรียญ ก่อนจะดีดตัวกลับขึ้นมายืนเหนือ 2,600 เหรียญได้อีกครั้ง เรียกได้ว่าราคาทองคำยังทรงตัวได้ดี และเริ่มลดความเสี่ยงในทิศทางแนวโน้มขาลง อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังคงอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นที่ระดับ 2,650 เหรียญ โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,605 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,645 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,615 เหรียญ และแนวต้าน 2,655 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,630 เหรียญ และแนวต้าน 2,670 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะกลางที่แข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 42,000 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งคาดว่าโอกาสที่ราคาทองไทยจะร่วงหลุดระดับ 41,500 บาทต่อบาททองคำเป็นไปได้ยาก โดยคาดว่าสิ้นปีนี้ราคาทองไทยน่าจะปิดแถวบริเวณ 41,700 บาทต่อบาททองคำ โดยน่าจะมีศักยภาพในการปรับตัวขึ้นต่อได้ในปีหน้า สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ระดับ 42,350 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้านระยะสั้นที่ระดับ 42,850 บาทต่อบาททองคำ
Gold Futures Series Z24 จะมีแนวรับที่ระดับ 42,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 43,000 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำซื้อขายในกรอบระยะสั้น ตามแนวโน้มของการพักฐานในกรอบ sideways โดยรอซื้อ เมื่อมีสัญญาณกลับตัวบริเวณแนวรับ และปิดขายทำกำไรก่อนเมื่อราคารีบาวด์ปรับตัวขึ้น
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ลดสถานะการซื้อ หรือ Long position ในระยะสั้นต้องระมัดระวังแรงขาย เนื่องจากอยู่ในช่วงการปรับฐาน ราคาอาจจะขึ้นเพื่อลงต่อในระยะสั้น จนกว่าจะสร้างฐานราคาได้
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ แต่ไม่แนะนำให้ถือในระยะยาว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น