ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (6 ม.ค.68) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 7.30 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 2,647.40 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยตลาดถูกกดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปี ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือน และจากการที่เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณเมื่อไม่นานมานี้ว่าเฟดอาจจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นิเทช ชาห์ นักกลยุทธ์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ บริษัท WisdomTree กล่าวว่า แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะกลับมาสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำอีกครั้ง แต่คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 3,050 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในสิ้นปีนี้ โดยอ้างอิงจากโพลสำรวจมุมมองทางเศรษฐกิจของบรรดานักวิเคราะห์ซึ่งมองว่าสกุลเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะชะลอตัวลง และหากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้นอีก ก็อาจจะทำให้ราคาทองพุ่งขึ้นสูงกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยข้อมูลดังกล่าวรวมถึงตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ (7 ม.ค.), ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ในวันพุธ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรซึ่งจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.2%
ข่าวเด่น