(225)(154).jpg)
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (5 ก.พ.68) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,873.28 จุด เพิ่มขึ้น 317.24 จุด หรือ +0.71%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,061.48 จุด เพิ่มขึ้น 23.60 จุด หรือ +0.39% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,692.33 จุด เพิ่มขึ้น 38.31 จุด หรือ +0.19% โดยนักลงทุนให้ความสนใจกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาคบริการของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงในเดือนม.ค.68
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.8 ในเดือนม.ค.68 จากระดับ 54.0 ในเดือนธ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.2 เนื่องจากอุปสงค์ชะลอตัวลง โดยดัชนีภาคบริการของ ISM ประกอบด้วยอุตสาหกรรม 17 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การก่อสร้าง และเหมืองแร่
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า แม้นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 16.5% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18-19 มี.ค. แต่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.
โธมัส บาร์กิน ประธานเฟด สาขาริชมอนด์ กล่าวว่า เฟดยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้ แต่ก็ชี้ให้เห็นถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรครั้งใหม่ รวมทั้งนโยบายคนเข้าเมือง และนโยบายอื่น ๆ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1.59% และ 1.57% ตามลำดับ ส่วนหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลงมากที่สุด โดยลดลง 2.79% และ 1.59% ตามลำดับ
หุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีธุรกิจเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่งสัญญาณฟื้นตัวหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าโมเดล AI ต้นทุนต่ำของดีปซีค (DeepSeek) ซึ่งเป็นธุรกิจสตาร์ตอัปของจีนจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของบริษัทเทคโนโลยี AI ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ หุ้นอินวิเดีย (Nvidia) พุ่งขึ้น 5.3% หุ้นบรอดคอม (Broadcom) พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นเดลล์ เทคโนโยีส์ (Dell Technologies) พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นควอลคอมม์ (Qualcomm) ปรับตัวขึ้น 1.6% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี (Micron Technology) พุ่งขึ้น 3.2%
อย่างไรก็ดี หุ้นอัลฟาเบท (Alphabet) ร่วงลง 7.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ธุรกิจคลาวด์ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 4/2567 และเปิดเผยแผนการลงทุนด้าน AI ในปีนี้สูงถึง 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.884 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นแอปเปิ้ล (Apple) ปรับตัวลง 0.14% หลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า หน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันทางการค้าของจีนจะดำเนินการตรวจสอบนโยบายของแอปเปิ้ลและค่าธรรมเนียม App Store
นักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าในการเจรจาด้านภาษีศุลกากรระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำของจีน หลังจากปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า เขาไม่รีบร้อนที่จะพูดคุยกับปธน.สีเกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 176,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 24.7% สู่ระดับ 9.84 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. 2567 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี ขณะที่การนำเข้าพุ่งขึ้น 3.5% สู่ระดับ 3.649 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และการส่งออกลดลง 2.6% สู่ระดับ 2.665 แสนล้านดอลลาร์
ข่าวเด่น