
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงในช่วงคืนวันศุกร์ โดยลงไปทำจุดต่ำสุดแถวบริเวณ 2,832 เหรียญ ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 2,858 เหรียญ ขณะที่เช้านี้ราคาทองคำยังคงทรงตัวใกล้เคียงแถวบริเวณ 2,870 เหรียญ ซึ่งปัจจัยหลักในการทำให้ราคาทองคำดีดกลับขึ้นมาในช่วงปลายตลาดน่าจะมาจากการเจรจาล่มระหว่างสหรัฐฯและยูเครน โดยเซเลนสกีและทรัมป์ปะทะคารมกันอย่างดุเดือดในการสนทนาที่ทำเนียบขาว ทำให้เกิดความไม่แน่นอนครั้งใหม่เกี่ยวกับสถานการณ์สงครามยูเครน-รัสเซีย โดยทรัมป์ขู่ที่จะถอนการสนับสนุนจากยูเครน และเซเลนสกีได้ออกจากทำเนียบขาวโดยที่ไม่ได้เซ็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างสองประเทศเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากรแร่ของยูเครน ซึ่งเพิ่มความกังวลให้กับนักลงทุนที่กำลังวิตกเรื่องเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯในวันศุกร์ ได้แก่ Core PCE Price Index m/m ออกมาใกล้เคียงจากที่คาดการณ์ บ่งบอกได้ว่าภาวะเงินเฟ้อยังคงทรงตัง ขณะที่ Prelim Wholesale Inventories m/m และ Chicago PMI ออกมาเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ ขณะที่ด้านดัชนีดอลลาร์เมื่อวันศุกร์เปิดที่ระดับ107.25 จุด และในช่วงเจรจาเหวี่ยงขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 107.66 จุด ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 107.56 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 107.25 จุด ทำให้ค่าเงินบาทอยู่ในทิศทางอ่อนค่าโดยเมื่อวันศุกร์ค่าเงินบาทเปิดที่ระดับ 33.97 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.28 บาทต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ภาพรวมราคาทองคำในสัปดาห์นี้น่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways ซึ่งถ้าราคาทองคำไม่ถูกกดดันจากดัชนีดอลลาร์ ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 2,840-2,880 เหรียญ ขณะเดียวกันหากราคาทองคำไม่หลุดระดับ 2,840 เหรียญ ภายใน 2 วัน น่าจะยืนยันได้ว่า ราคาทองคำสิ้นสุดการปรับฐานแล้ว แต่ถ้าหลุดระดับ 2,840 เหรียญลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 2,820 เหรียญ และมีแนวต้านหลักที่ระดับ 2,880 เหรียญ สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Final Manufacturing PMI คาดการณ์ว่าจะออกมาใกล้เคียงเดิม ขณะที่ ISM Manufacturing PMI คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม ขณะที่ ISM Manufacturing Prices คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 1.72 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 904.38 ตัน โดยข่าวที่สำคัญต่อตลาดการเงินอีกประเด็นหนี่ง เกี่ยวกับการที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศจัดตั้งทุนสำรองสกุลเงินดิจิทัลเชิงยุทธศาสตร์สำหรับสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะรวมถึง Bitcoin ,ETH, XRP, SOL,ADA เข้าเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองคริปโทด้วย ทำให้ Bitcoin พุ่งขึ้น 10% เป็น 94,343.82 ดอลลาร์ หลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนต่ำกว่า 80,000 ดอลลาร์ในวันศุกร์

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำอยู่ในช่วงของการปรับฐาน โดยหากภายใน 2 วันนี้ ราคาทองคำไม่หลุดระดับ 2,840 เหรียญ น่าจะวิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคำสิ้นสุดการปรับฐานแล้ว โดยในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 2,840-2,880 เหรียญ โดยวันนี้คาดว่าจะมีกรอบระยะสั้นอยู่แนวรับที่ระดับ 2,850 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,880 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนขายทำกำไรบางส่วนและรอความชัดเจนของทิศทาง
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,855 เหรียญ และแนวต้าน 2,885 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,860 เหรียญ และแนวต้าน 2,890 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 46,100 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 46,600 บาท/บาททองคำ โดยราคาทองไทยปรับตัวลงมาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า
Gold Futures Series G25 จะมีแนวรับที่ระดับ 46,550 บาท และแนวต้านที่ระดับ 46,900 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำปิดขายทำกำไร และลดสถานะการซื้อ หรือ Long position เพื่อบริหารความเสี่ยง ตามแนวโน้มของการปรับฐาน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ลดสถานะการซื้อ หรือ Long position ในระยะสั้นต้องระมัดระวังแรงขาย เนื่องจากอยู่ในช่วงการปรับฐาน ราคาอาจจะขึ้นเพื่อลงต่อในระยะสั้น จนกว่าจะสร้างฐานราคาได้
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ แต่ไม่แนะนำให้ถือในระยะยาว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น