ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,110 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,160 เหรียญ


ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง 2 วันติด ท่ามกลางความวิตกกังวลเรื่องสงครามการค้าจากการขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่น่าจะมีผลกระทบต่อหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งต้องจับตาประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ โดยราคาทองคำทำ All Time High ใหม่ที่ระดับ 3,145 เหรียญ และเช้านี้อยู่ที่ระดับ 3,143 เหรียญ จากแรงซื้อขายสลับไปมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ เรียกได้ว่า ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์เป็นอย่างมาก ทำให้นักวิเคราะห์หลายฝ่ายปรับเพิ่มคาดการณ์ของแนวโน้มราคาทองคำ โดยโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีโอกาสที่จะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 4,500 ดอลลาร์ภายใน 12 เดือนข้างหน้า พร้อมกับคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ เพื่อรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก มองว่า นโยบายการเงินของสหรัฐฯ "ยังอยู่ในจุดที่เหมาะสม" ต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ โดยยังมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้ออาจกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ขณะที่คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดการณ์ว่า การที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าจะส่งผลให้เศรษฐกิจยุโรปเติบโตลดลง 0.3% ในปีแรก และอาจลดลงถึง 0.5% หากมีมาตรการตอบโต้ ขณะที่จีนมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น โดยจะออกพันธบัตรรัฐบาลพิเศษมูลค่า 5 แสนล้านหยวน (ประมาณ 6.97 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 ให้กับ 4 ธนาคารพาณิชย์รัฐวิสาหกิจรายใหญ่ของประเทศ ทางด้านราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นหลังจากมีความตึงเครียดเกี่ยวกับสงครามการค้า และการที่สหรัฐฯ ขู่ที่จะคว่ำบาตรอิหร่านมากขึ้น ขณะที่ทางด้านสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงอิสราเอลและฮามาสยังคงดำเนินต่อไป โดยมีเงื่อนไขการเจรจาต่อรองที่ดูจะตกลงได้ยากทั้ง 3 ฝ่าย สำหรับเศรษฐกิจของไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยว่าเศรษฐกิจไทยเดือนก.พ.68 ชะลอลงจากเดือนก่อน เนื่องจากจำนวนและรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง ประกอบกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนภาคเอกชนลดลง ทำให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง โดยค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.04 บาทต่อดอลลาร์ และคาดว่าจะทรงตัวในกรอบระหว่าง 33.80-34.10 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อวานเปิดที่ระดับ 104.01 จุด และขึ้นไปแข็งค่าสุดที่ระดับ 104.39 จุด ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 104.18 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 104.08 จุด เรียกได้ว่าดัชนีดอลลาร์ยังอยู่ในช่วงที่ปรับตัวสูงขึ้นแถวบริเวณ 104.2-104.4 จุด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ ได้แก่ Chicago PMI ออกมาเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ ขณะที่วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Final Manufacturing PMI คาดการณ์ว่าจะออกมาใกล้เคียงเดิม ขณะที่ ISM Manufacturing PMI คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม และ ISM Manufacturing Prices คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม



วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งตัวชี้วัด RSI เริ่มเข้าสู่โซน Overbought ยังคงแนะนำให้นักลงทุนมีการขายทำกำไรเป็นช่วงๆ ระมัดระวังการปรับฐาน เนื่องจากราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,110 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,160 เหรียญ

สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,145 เหรียญ และแนวต้าน 3,195 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,120 เหรียญ และแนวต้าน 3,170 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 50,300 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 50,800 บาท/บาททองคำ

Gold Futures Series J25 จะมีแนวรับที่ระดับ 50,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 50,900 บาท

โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แบ่งปิดสถานะ Long เพื่อทำกำไรบางส่วน ยังเน้นเทรดซื้อขายตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้น และปิดทำกำไรตามรอบ เน้นเทรดระยะสั้นลง ระวังเเรงเทขายทำกำไร

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 01 เม.ย. 2568 เวลา : 12:12:21

02-04-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 2, 2025, 10:58 pm