(136).jpg)
ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (10 เม.ย.68) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 98.10 ดอลลาร์ หรือ 3.19% ปิดที่ 3,177.50 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ที่เมื่อคืน ดัชนีดอลลาร์ ร่วงลง 1.99% แตะที่ระดับ 100.866 และอีกปัจจัยนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น
โดยหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรกับประเทศต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงจีนนั้น รัฐบาลจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เป็น 84% จากเดิม 34%
ด้านทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ล่าสุดว่า ปธน.ทรัมป์ประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสู่ระดับ 125% ในวันพุธ (9 เม.ย.) แต่อัตราภาษีดังกล่าวยังไม่รวมกับที่ปธน.ทรัมป์เรียกเก็บภาษีในอัตรา 20% เพื่อลงโทษจีนที่ไม่ได้สกัดการไหลทะลักของยาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ขณะนี้สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 145%
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจากระดับ 2.8% ในเดือนก.พ. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจากระดับ 3.1% ในเดือนก.พ. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.0%
หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อดังกล่าว นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนมิ.ย. และมีความเป็นไปได้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวมทั้งสิ้น 1% ภายในสิ้นปีนี้
ข่าวเด่น